สวัสดีค่ะแฟนเพจที่น่ารักของสุ่ยหลิน^^ ทุกภาษาที่ใช้กันอยู่ในโลกทุกวันนี้ ในหลักภาษาศาสตร์เราเรียกว่า “ภาษาที่ยังไม่ตาย” ค่ะ หมายความง่ายๆ ว่ายังมีคนใช้ คนพูดกันอยู่ และเพราะภาษาที่ยังไม่ตายจึงมีคำใหม่ๆ เกิดขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ ตามการพัฒนาของโลกหรือสภาพสังคมในตอนนั้นๆ อย่างเช่นสมัยก่อนไม่มีทีวี มือถือ รถไฟฟ้า ก็ไม่มีคำเรียกของพวกนี้ แต่ต่อมาเมื่อโลกเจริญขึ้น สิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนก็มีขึ้นมา ก็เลยต้องมีคำศัพท์ชี้เฉพาะมาเรียกสิ่งเหล่านั้นนั่นเองค่ะ
และในศัพท์เกิดใหม่พวกนี้ก็มีศัพท์ที่เกิดมาจากอินเตอร์เน็ตที่บรรดาวัยรุ่นชอบใช้ ภาษาจีนเรียกว่า 网络语言 [wǎngluò yǔyán] ภาษาที่ใช้ในเน็ตหรือภาษาแชท บางทีก็เรียกกันเล่นๆว่า 火星文 [Huǒxīngwén] ภาษาดาวอังคาร เพราะบางคำตั้งเพื่อเป็นศัพท์ที่รู้กันในแวดวงเท่านั้น (คนนอกอย่างสุ่ยหลินไม่เข้าใจ แก่แล้วตามไม่ทัน) เรียกว่าใครอินเทรนด์รู้ก่อน ใช้เป็นจะดูคูล ดูเท่ โพสนี้เรามารู้จักว่า 网络语言 พวกนี้มาเกิดมาได้ยังไงกับสุ่ยหลินดีกว่าค่ะ
ที่มาของสแลงในอินเตอร์เน็ต เขามากันยังไงนะ?
1. เอาคำในภาษาจีนมาแปลงเป็นตัวเลข
แบบนี้ถือว่าแฟนเพจของสุ่ยหลินรู้จักดี เพราะเป็นการเอาคำมาแปลงเป็นตัวเลขที่มีเสียงใกล้เคียงกับคำๆ นั้น เหตุผลก็เพราะว่าในเน็ตความเร็วนั้นสำคัญยิ่งยวด เรียกว่าไม่พิมพ์เยอะเดี๋ยวเมื่อยนิ้ว #ไม่พูดเยอะเดี๋ยวเจ็บคอ หลังๆ ก็เป็นที่รับรู้กันว่ารหัสลับตัวเลขเหล่านั้นมีความหมายว่าอะไร ลองมาดูรหัสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปกันค่ะ (สุ่ยหลินเคยทำ Album นี้ไปแล้ว แฟนเพจหลายคนคงจำได้ชัวร์ๆ)
886 [bā bā liù] 拜拜了[bàibài le] บ๊ายบาย (ทับเสียง bye bye)
520 [wǔ èr líng] 我爱你 [wǒ ài nǐ] ฉันรักเธอ
555 [wǔ wǔ wǔ] 呜呜呜 [wūwūwū] ฮือ ฮือ ฮือ (เลียนเสียงร้องไห้)
7456 [qī sì wǔ liù] 气死我啦 [qì sǐ wǒ la] โกรธอิ๊บอ๋าย
2. เอาพินอินมาแปลงเป็นอักษรภาษาอังกฤษ
แบบนี้ถือว่าเป็นการใช้อักษรย่อภาษาอังกฤษของพินอิน มาแทนอักษรจีน เป็นหลักการเดียวกันกับการใช้ตัวเลขเลยค่ะ นั่นก็คือเพื่อความเร็วในการแชท เช่น
GG 哥哥 [gēge] พี่ชาย
MM 妹妹 [mèimei] น้องสาว
LZ 楼主 [lóuzhǔ] เจ้าของตึก เจ้าของโพส (มาจากแนวคิดที่ว่าเจ้าของโพสเป็นผู้ตั้งกระทู้ก็เหมือนเจ้าของตึก และคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นที่ต่อลงมาทีละความเห็นก็คือ ผู้เช่าที่อยู่ตามชั้นต่างๆ ของตึก)
LS 楼上 [lóushàng] ชั้นบน = ความคิดเห็นข้างบน
LX 楼下 [lóuxià] ชั้นล่าง = ความคิดเห็นข้างล่าง
ป.ล. มีอักษรย่อบางคำที่เป็นที่เข้าใจเฉพาะกลุ่ม คือตั้งเป็นรหัสรู้กันเองในแวดวงของเขา อย่างเช่น
3P = 3 people (สแลง) threesome เซ็กส์หมู่เราสามคน ความหมายคล้ายๆกับ 双飞 บินคู่ ที่ 花哥 เขียนไว้ใน ภาษาจีน18+ นะจ๊ะ
3. เอาศัพท์ภาษาอังกฤษมาแปลงเป็นอักษรจีนที่มีเสียงใกล้เคียงกัน
เดี๋ยวนี้วัยรุ่นจีนนิยมใช้คำที่มาจากภาษาอังกฤษเยอะขึ้นค่ะ แต่ก็ยังใช้ตัวอักษรจีนมาเป็นเหมือนภาษาคาราโอเกะเพื่อทับเสียงของคำๆนั้น ซึ่งบางคำก็เล่นเอาเรางงไปเลยก็มีค่ะ เช่น
米兔 [mǐtù] #MeToo ฉันด้วย
狗带 [gǒudài] “go die” ไปตายซะ
碧池 [bìchí] “bitch”
艾瑞巴蒂 [àiruìbādì] everybody ทุกคน
4. เอาคำในเรื่องราวที่เป็นดราม่า มาสื่อในอีกแง่มุมของความหมายที่เป็นคำสแลง
คำพวกนี้เราต้องรู้เรื่องราวที่มาของความหมายค่ะ ซึ่งสุ่ยหลินว่าสนุกและน่าสนใจมาก เพราะนอกจากจะรู้ความหมายก็ยังได้รู้ความเป็นไปในสังคมจีนตอนนั้นๆ ด้วย บางคำฮิตประเดี๋ยวประด๋าว บางคำเรื่องราวต้นเรื่องผ่านมานานแล้ว แต่ก็ยังฮิตใช้กันอยู่ไม่รู้วาย ลองมาดูตัวอย่างกัน
打酱油 [dǎjiàngyóu]
ความหมายตรงตัวคือ ซื้อซีอิ๊ว แต่ในความหมายที่เป็นสแลงจะแปลว่า “ไม่เกี่ยวอะไรกับกรู”-เพราะฉันแค่เดินผ่านมาจะไปซื้อซีอิ๊ว ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยสักหน่อย ไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน เรื่องราวที่มาจะเป็นอย่างไรอ่านต่อในโพสนี้ 打酱油 ได้ค่ะ
ป.ล. 打酱油 มีอยู่ใน Slang จีน สนุกจัง เล่ม 1 ด้วยนะจ๊ะ หาซื้อได้ที่ซีเอ็ดทุกสาขาค่ะ
查水表 [cháshuǐbiǎo]
ความหมายตรงตัวคือ ตรวจสอบมิเตอร์น้ำ แต่เมื่อเป็นคำสแลงแล้ว มันคือตรวจสอบความเคลื่อนไหวค่ะ มีที่มาจากละครที่ตำรวจทำทีว่าจะมาตรวจมิเตอร์น้ำเพื่อหลอกให้คนร้ายเปิดประตูให้ ต่อมาจึงเป็นคำล้อเลียนเมื่อมีคอมเมนต์ที่ดูล่อแหลมจะโดนรัฐบาลจีนที่ใครๆ ก็รู้ว่าโคตรเข้มมาตรวจสอบ ก็ใช้ประโยคว่าระวังจะโดน 查水表 นะโว้ย!!
请喝茶 [qǐng hē chá]
ความหมายตรงตัวคือ เชิญดื่มชา แต่ก็สามารถใช้ในความหมายที่เป็นสแลงได้เช่นกัน จะมีความหมายว่า ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่เชิญไปดื่มชาที่สถานีตำรวจ ซึ่งก็หมายถึงโดนควบคุมตัวเพื่อสอบสวนนั่นเองจ้า ชาฟรีๆ ที่สถานีตำรวจใครจะรับสักถ้วยมั๊ยจ๊ะ
沙发 [shāfā]
ความหมายตรงตัวคือ โซฟา เป็นการทับเสียงภาษาอังกฤษ sofa ซึ่งถ้าเราเจอ 沙发 ในคอมเมต์ก็อาจจะไม่ใช่ โซฟา ที่ใช้นั่งจริงๆ แต่หมายถึง So fast หรือเม้นต์แรก ซึ่งเมื่อเป็นเมนต์แรกก็เลยเปรียบเหมือนเข้าไปในบ้านคนแรกแล้วได้นั่งโซฟาที่ยังไม่มีใครนั่งนั่นเองค่ะ ล้ำลึกมั๊ย?
ป.ล. เรื่องของ 沙发 มีอยู่ใน Slang จีน สนุกจัง เล่ม 2 ด้วยนะจ๊ะ
5. เอาคำที่ออกเสียงคล้ายกันมาใช้แทนความหมายของอีกคำหนึ่ง
ส่วนมากจะเกิดจากการพิมพ์ผิด เพราะเดี๋ยวนี้คนจีนใช้พินอินช่วยพิมพ์อักษรจีน บางทีพิมพ์เร็วไป ไม่ทันได้ดูก็เลยพิมพ์ผิดแล้วส่งออกไป แต่คนอื่นดันเข้าใจซะงั้น และเห็นว่าเท่ ว่าคูล ก็เลยเอาไปใช้บ้าง ไปๆ มาๆ ก็เลยฮิตและรู้ความหมายกันทั่วไป ถ้าเทียบกับภาษาไทยก็เช่น เมพ หรือ ถถถถถ นั่นเองค่ะ ลองดูตัวอย่างคำพวกนี้นะคะ
神马 [shénmǎ] เทพม้า ใช้แทน 什么 [shénme] อะไร (คำนี้มีเรื่องเล่าอยู่ใน Slang จีน สนุกจัง เล่ม 1 จ๊ะ)
杯具 [bēijù] เครื่องแก้ว ใช้แทน 悲剧 [bēijù] เรื่องเศร้า (คำนี้ก็มีเรื่องเล่าอยู่ใน Slang จีน สนุกจัง เล่ม 1 เหมือนกัน)
鸭梨 [yālí] ลูกแพร์เป็ด ใช้แทน 压力 [yālì] ความกดดัน
负翁 [fùwēng] ลูกหนี้ ใช้เพื่อล้อเลียนคำว่า 富翁 [fùwēng] คนรวย
妹纸 [mèizhǐ] กระดาษน้องสาว ใช้แทน 妹子 [mèizi] น้องสาว
辣鸡 [làjī] ไก่เผ็ด ใช้แทน 垃圾 [lājī] ขยะ
盆友[pényǒu] เพื่อนอ่าง ใช้แทน 朋友 [péngyou] เพื่อน
6. เอาอักษรจีนโบราณที่ไม่นิยมใช้แล้ว แต่รูปร่างมันโดน มันได้ ก็เลยก็เอามาใช้ในความหมายที่สื่อถึงรูปร่างนั้นๆ
囧 [jiǒng]
ความหมายดั้งเดิมคือ สว่างหรือแสงสว่าง ซึ่งความหมายนี้ไม่นิยมใช้แล้ว เพราะคนจีนนิยมใช้คำอื่นในความหมายว่าสว่างแทน หลังๆ มีคนเอา 囧 มาเป็นอีโมติคอนหรือรูปที่แสดงอารมณ์ในการแชท มีความหมายว่า “เก้อ” “เพล้ง” “หน้าแตก” ตามรูปของ 囧 ที่เหมือนหน้าคนกำลังเก้ออยู่นั่นเองค่ะ ( 囧 ก็มีอยู่ใน Slang จีน สนุกจัง เล่ม 1 ค่ะ)
凸 [tū]
แปลว่า “นูน” หรือ “ยื่นออก” ค่ะ แต่รูปร่างของตัวอักษรมันได้ใจ หากว่ามีใครพิมพ์ 凸 ให้เรา นั่นคือเขา “ให้นิ้วกลาง” เรานะ แหะๆ
槑 [méi]
槑 เป็นอักษรจีนตัวเต็ม ซึ่งตัวย่อใช้อักษรว่า 梅 [méi] ที่แปลลว่า ดอกเหมย แต่เพราะ 槑 เหมือนเป็นการเอา 呆 [dāi] ที่แปลว่า “โง่” มาต่อกัน 2 ตัว ดังนั้น 槑 ก็เลยถูกใช้ในความหมายว่า ดับเบิ้ลโง่ โง่มากมาย โง่อิ๊บอ๋าย นั่นเองค่ะ
7. เอาประโยคฮิตของคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เป็นที่สนใจมาใช้
เป็นการ quote คำพูดของคนต้นเรื่องมาใช้ตรงๆ เลยค่ะ เช่นของไทยที่ฮิตๆ ก็ “ไม่พูดเยอะ เจ็บคอ” เรามาดูตัวอย่างของจีนกันมั่ง
我爸是李刚!! [Wǒ bà shì Lǐ Gāng!!]
พ่อกรูชื่อหลี่กัง!! เป็นเรื่องราวเล่าขานกันมาถึงตอนนี้ เพราะเป็นเหตุการณ์ดังเมื่อปี 2011
มีผู้ชายแซ่หลี่ขับรถชนนักศึกษามหาลัยเหอเป่ยอย่างแรงในมหาลัย คนนึงตายอีกคนบาดเจ็บหนักเลย แล้วคนชนเนี่ยพยายามหนี ยามก็สกัดไว้ได้ หนุ่มคนนี้ตะโกนมาว่า “เฮ้ย หลีกไป แน่จิงก็มาฟ้องดิ๊ พ่อกรูชื่อหลี่กัง!” อ้าย..เน่
ที่เค้ากล้าพูดอย่างงี้ เพราะหลี่กัง (คือพ่อเค้านะ) เป็นตำแหน่งใหญ่โตในราชการ จากนั้นเรื่องก็ดังไปทั่วเน็ต กลายเป็นสแลงใช้ในความหมายว่าไม่ต้องรับผิด ไม่ต้องรับโทษตามกฏหมายเพราะมีสายสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ตานี่ก็ไม่ได้รอดหรอกนะคะ ผลสรุปคือปี 2011 ศาลตัดสินติดคุก 6 ปี และชดใช้เงินประมาณ 3 ล้านให้ครอบครัวผู้บาดเจ็บและสูญเสีย นี่ขนาดพ่อกรูชื่อหลี่กังแล้วนะ
เคสนี้ยังดีที่คนก่อเหตุยังจำชื่อพ่อตัวเองได้ เพราะบ้านเราคนก่อเหตุแม้แต่ชื่อพ่อตัวเองยังจำไม่ได้ ต้องไปถามคนอื่น “มึงรู้มั้ย กรูลูกใคร” อ้าว? จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปเดี๋ยวเพจโดนปิด!!
ถือโอกาสตัดจบตรงนี้เลยละกันค่ะ กลัวว่าโพสยาวกว่านี้จะมีใครมาตรวจมิเตอร์น้ำ 查水表 แล้วได้เชิญสุ่ยหลินไปดื่มชา 请喝茶
520 886
เขียนเป็นภาษาดาวอังคาร 火星文 แบบนี้ถ้าแฟนเพจอ่านแล้วเข้าใจบรรลุวัตถุประสงค์ของโพสนี้แล้วจ้า