เรียนภาษาจีน แล้วทำงานได้เงินเดือนน้อยจริงเหรอ?

20890
SHARE

สวัสดีค่ะแฟนเพจของสุ่ยหลิน  โพสนี้อยากเล่าให้แฟนเพจฟังจากประสบการณ์ของสุ่ยหลินว่า เรียนภาษาจีน จบเอกจีนมาได้เงินเดือนน้อยนิดกระจิดริด เห็นแล้วท้อแท้ใจ คิดว่าตัวเองเลือกผิดไม่น่าเรียนภาษาจีนเลยเรา เรื่องนี้จริงหรือเปล่า?

เรียนภาษาจีนได้เงินเดือนน้อยจริงเหรอ?  งั้นกลับตัวตอนนี้ยังทันไหม?  ถ้าไม่ทันจะทำยังไงต่อไปนี้กับอนาคตการงานของเรา?

ติดตามมุมมองเรื่องนี้ได้จากโพสของสุ่ยหลินค่ะ

เรียนภาษาจีน มีคนกลุ่มไหนบ้าง

ต้องเล่าก่อนว่าจากประสบการณ์ของสุ่ยหลิน คนที่ เรียนภาษาจีน มีหลายกลุ่ม ขอแบ่งเป็นกลุ่มๆ แบบนี้ค่ะ

1. กลุ่มที่เรียนเพื่อเที่ยว เรียนเพื่อคุยกับญาติให้รู้เรื่อง เรียนเพราะชอบดารา นักร้อง เรียนเพราะเป็นติ่งจีน เรียนเพราะอยากรู้ภาษาจีน

ซึ่งกลุ่มนี้จะมีความสุขที่สุดค่ะ เพราะไม่ต้องแคร์เรื่องเงินมาก แต่เชื่อไหมที่เริ่มเรียนเพราะชอบ ทำให้หลายคนไปได้ไกลมาตั้งเยอะแล้ว ดังนั้น ถ้าใครมีความชอบใส่เกียร์เต็มสูบ ลุยไปเลยค่ะ ถ้าเราเก่ง เงินจะมาเอง! อยู่ที่เราเก่งจริงๆ หรือเปล่าแค่นั้น!

2. กลุ่มเด็กๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังให้เรียนภาษาตั้งแต่เด็กๆ จะได้มีโอกาสในชีวิตเพิ่มมากขึ้น พูดได้ 2-3 ภาษา

กลุ่มนี้ก็ไม่เครียดมากเพราะรับผิดชอบแค่ตัวเองก็พอ คุณพ่อคุณแม่ออกตังค์ให้หมด

3. กลุ่มที่เรียนเพื่อไปทำงาน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่สำคัญในที่เป็นหัวข้อของโพสในวันนี้เลยค่ะ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เรียนอย่างมีคาดหวัง ต้องเรียนเอาไปทำงาน ใช้งาน สอบให้ผ่าน เป็นครูให้ได้ ทำงานโรงแรมให้ได้ ขายของกับคนจีนให้ได้ เป็นแอร์ให้ได้ เป็นล่ามให้ได้ ฯลฯ กลุ่มนี้จะเครียดสุดเพราะมีความคาดหวังเป็นตัวค้ำคอ

เคยได้อ่าน Facebook group กลุ่มหางานภาษาจีน มีโพสว่าเดี๋ยวนี้งานภาษาจีนมีบริษัทมาประกาศหาพนักงานให้เงินเดือนน้อยมาก แต่ 要求高 requirement สูง เช่นต้องการ HSK5 ต้องมี Toeic 600 แต่ให้เงินเดือน 15,000 บาท บ้าง 20,000 บาทบ้าง ให้แบบนี้ยังไม่พอค่าเรียน ค่าลงทุนการศึกษาที่ลงทุนไปเลย ไม่พอค่าครองชีพด้วย ซึ่งก็มีคนเห็นด้วยจำนวนมาก น้องๆ หลายคนคอมเม้นท์บอกว่าเสียใจที่เลือกเรียนภาษาจีน รู้แบบนี้ปลี่ยนไปเรียนภาษาญีปุ่นหรือเกาหลีดีกว่า เพราะเงินเดือนสตาร์ทก็ดีกว่า หลายคนบอกว่าเสียใจที่กลับตัวไปเรียนใหม่ไม่ทันเรียนมาเยอะแล้ว ฯลฯ

บริษัทจีนจ้างเงินเดือนน้อย

สำหรับเรื่องนี้สุ่ยหลินมีประสบการณ์ที่เจอมาแบบนี้ค่ะ

เรื่องที่นายจ้างคนจีนให้เงินเดือนน้อยนี้จริงค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหม่ สุ่ยหลินเรียนภาษาจีนมา 12 ปีแล้วและได้ยินเรื่องนี้มานานแล้ว สถานการณ์ผ่านไป 12 ปีก็ยังไม่ได้ดีขึ้น ทางแก้ก็อาจจะมีกลุ่มพวกเรารวมตัวกันไม่รับงานที่เงินเดือนน้อยเกินไป แต่เรื่องนี้ยากเพราะต้องไปควบคุมคนอื่น เราไม่รับก็อาจจะมีคนรับก็ได้ เรื่องที่ง่ายกว่าคือควบคุมตัวเราเองค่ะ

เรื่องที่นายจ้างจีนให้เงินเดือนน้อยนี้ ส่วนหนึ่งที่สุ่ยหลินเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ก็คือ เขามาเมืองไทยใหม่ๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตำแหน่งงานแบบนี้ต้องจ้างคนในพื้นที่เท่าไหร่กันแน่ วิธีการที่นิยมใช้บ่อยคือถามคนจีนที่รู้จักกันว่า ต้องจ้างเท่าไหร่ พอคนแรกบอกจ้าง 15,000 บาทเพราะเคยจ้างได้ ก็กลายเป็นบรรทัดฐานแบบนี้ไปเรื่อยๆ พอมาถึงเรา เราอาจเรียกค่าแรงที่ 25,000 บาท ก็เลยกลายเป็นเรทของเราแพงเกินไป

ทำอย่างไรถึงจะเรียนภาษาจีนแล้วได้ค่าตอบแทนเยอะๆ

สุ่ยหลินจึงอยากขอแนะแนวทางสำหรับน้องๆ เพื่อนๆ และพี่ๆ ทุกคนที่เรียนภาษาจีนเพื่อไปหางานทำ ให้ลองทำแบบนี้ค่ะ ใครมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจัดมาได้เลยนะ

1. ทำงานบริษัทจีนที่เป็นบริษัทใหญ่ บริษัทระดับอินเตอร์ ไม่ใช่ SME เล็กๆ แบบระบบเถ้าแก่ เช่น หัวเหว่ย Midea มีอีกเยอะแยะเลยลองหาใน google ได้  บริษัทพวกนี้มาตรฐานจะดีกว่า SME ทั่วไป สวัสดิการดี ไม่กดเงินเดือน ได้มาตรฐานแต่เน้นว่า “จ่ายคุ้มก็ใช้คุ้ม” นะ

2. ทำงานบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทของจีน 100% เช่น บริษัทฝรั่งหรือบริษัทไทยแต่ต้องมีการดีลกับลูกค้า คู่ค้า หรือ supplier จีน วิธีการแบบนี้ช่วยทำให้เราได้เงินเดือนไม่ต่ำเกินไปนัก และยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเองได้ด้วย เพราะว่าคนอื่นในบริษัทจะพูดอังกฤษได้เป็นพื้นฐาน แต่เราสามารถสื่อสารอังกฤษ+จีนได้ จึงได้เปรียบคนอื่นในบริษัท

ซึ่งคนไหนใช้วิธีจะต้องไม่ทิ้งอังฤกษอย่างสิ้นเชิง ต้องสื่อสารได้ พอฟังได้ ฟังเข้าใจ พูดพอได้ เขียนอีเมล์ได้ TOEIC ประมาณ 700 ขึ้นไป (สุ่ยหลินเลือกวิธีนี้)

3. ฝึกฝนภาษาจีนของเราให้เฉพาะทาง ปัจจุบันราคาล่ามโรงงานติดตั้งเครื่องจักรรับอยู่ที่วันละ 4,000 บาทขึ้นไป บางทีไม่รวมค่าเดินทางและอาหารและค่าที่พัก สุ่ยหลินเคยเห็นโพสรับล่ามจีนสำหรับคลีนิคผู้มีบุตรยาก ค่าตอบแทน 50,000-70,000 บาท ขึ้นกับประสบการณ์

แต่การจะรับงานอย่างนี้ได้ต้องมีความรู้เฉพาะทาง การจะมีความรู้แบบนี้ต้องฝึกฝนต้องขยัน อดทน สั่งสมความรู้เฉพาะด้าน ก่อนจะไปถึงขั้นนั้นได้ภาษาจีนพื้นฐานต้องได้ก่อน จากนั้นถามตัวเองว่าถนัดอะไร แล้วฝึกฝนด้านนั้นให้เก่ง เชี่ยวชาญ ถ้าเก่งแล้วจะมีเหรอจะไม่มีเงิน เก่งไม่กลัวกลัวไม่เก่งแล้วอยากได้ค่าตอบแทนสูงๆ แล้วใครจะให้!

นอกจากจะเป็นล่ามแล้วยังสามารถเป็นนักแปลได้ มีประกาศรับสมัครนักแปลนิยายจีนอยู่เรื่อยๆ ทำงานอยู่กับบ้าน แปลได้ได้ค่าลิขสิทธิ์จากนิยาย ใครไม่มีสำนักพิมพ์อย่าได้แคร์ขายทำอีบุ๊คขายเลยค่ะ ขายดีสำนักพิมพ์วิ่งมาง้อให้ตีพิมพ์ด้วยเอง ตอนนี้ก็อยู่ที่เราล่ะ

4. เรียนภาษาจีนเอามาทำธุรกิจ ค้าขายก็ได้ ขายของก็ได้ ไปซื้อของมาขายก็ได้ บางคนทำธุรกิจประสบผลสำเร็จได้เงินเยอะแยะก็มี แต่ก็ต้องเริ่มจากการเรียนภาษาจีนพื้นฐานก่อน แล้วค่อยต่อยอดว่าสนใจสินค้าประเภทไหน หมวดไหน ศัพท์อะไรเกี่ยวข้องกับสินค้าหมวดนั้นที่เราต้องรู้ เช่น ของเล่นเด็ก ของแต่งบ้าน อุปกรณ์เสริมมือถือ ฯลฯ

สุ่ยหลินบอกเลยว่าคนจีนที่ทำค้าขาย เขาไม่มาแคร์หรอกค่ะ ว่าเราพูดไวยากรณ์ถูกเป๊ะๆ หรือเปล่า หรือพูดชัดเป๊ะทุกคำไหม แค่พูดให้ต่างฝ่ายต่างรู้เรื่องก็พอแล้วสำหรับเขาจะขายเท่าไหร่ ซื้อเท่าไหร่ credit term เท่าไหร่ ส่งของเมื่อไหร่ พวกนี้สำคัญกว่าสำเนียง ไวยากรณ์ ที่เราซีเรียสกันมากๆ

ที่สำคัญคนจีนจำนวนไม่น้อยเลยค่ะที่พูดภาษาจีนกลางไม่ชัดเลย เพราะเขามีภาษาถิ่น รวมไปถึงลักษณะลิ้นและรูปปากของแต่ละคนที่อำนวยความสะดวกให้พูดชัดหรือไม่ชัดด้วยนะ

5. เรียนภาษาจีนเพื่อไปเป็นดารา นักร้อง พิธีกร MC ตามงานอีเวนต์ต่างๆ ผู้ประกาศข่าว อาชีพพวกนี้รายได้ดีค่ะ ต่อยอดไปเป็นอย่างอื่นได้ด้วย ไปเป็น presenter สินค้าต่างๆ ก็ได้ เป้าหมายจะทำอาชีพพวกนี้ต้องพูดภาษาจีนให้ชัด ให้ถูกค่ะ

ต้องเริ่มจากเรียนพื้นฐานแบบนี้ที่เราเรียนกันก่อน เน้นเรื่องการออกเสียง 声调 วรรณยุกต์ต่างๆ ต้องชัดค่ะ ต้องพยายามพาตัวเองเข้าใกล้ ultimate goal เป้าหมายสูงสุดคือ CCTV ให้ได้มากที่สุด

บทสรุป

สุ่ยหลินอยากจะบอกว่าทุกอย่างมีทางไป ชีวิตไม่ได้มีแค่เรียนมา ทำงานกินเงินเดือนอย่างเดียว เขาให้เงินเดือนน้อยก็ต้องทนอยู่หรืออยู่ทน อย่าอยู่แบบตายซาก เหมือนน้ำพัดไปทางไหนก็ไป ไม่มีทางสู้รบปรบมืออะไรเลย ต้องพยายามสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวเอง ใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปในงานตัวเองให้แตกต่างจากคนอื่น

ถ้าคิดว่าเก่งจริงก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ จริงๆ แล้วเพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อใคร ถ้ายังไม่เก่งก็ไม่เป็นไร ต้องฝึกหัด ฝึกฝน ยังดีที่ตัวเองรู้ว่ายังไม่เก่งจะได้ฝึกต่อไปได้ เพราะคนที่เก่งก็ต้องมีก้าวแรกที่ไม่เก่งมาด้วยกันทั้งนั้นสุ่ยหลินก็เหมือนกันค่ะ ทุกวันนี้ยังเรียนอยู่เลย

ที่สำคัญที่สุด ข้างบนที่เล่ามาเราต้องทนเหนื่อย ทนท้อได้ไหม และทุกอย่างใช้เวลาไม่มีสำเร็จง่ายๆ คนส่วนน้อยทำได้เพราะคนส่วนใหญ่ทนไม่ได้ ถามตัวอยากเป็นคนส่วนน้อยหรือเป็นคนส่วนใหญ่นะคะ

สู้ๆ นะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ

สุ่ยหลิน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

อยากให้เรียนภาษาจีนให้เก่ง เวลาว่างๆ สุ่ยหลินชวนฟัง podcast นี่เลยค่ะ

เรียนภาษาจีนมาตั้งนาน ทำยังไงให้พูดจีนได้เก่งๆสักที??