สัมภาษณ์งานบริษัทจีน ยากจริงเหรอ???

32276
SHARE

สวัสดีค่าแฟนเพจที่น่ารักของสุ่ยหลินทุกคน^^ สุ่ยหลินเชื่อว่าพวกเราที่เรียนภาษาจีนกันอยู่ทุกวันเนี้ย ส่วนนึงก็อยากที่จะทำงานที่ใช้ภาษาจีนกันนะคะ ไม่ว่าจะเป็นครู เป็นอาจารย์ เป็นไกด์ เป็นล่าม เป็นนักแปล เป็นแอร์และอีก ฯลฯ เลยนะ ที่ภาษาจีนจะเป็นเครื่องมือช่วยเราไปถึงฝั่งฝันได้^^ แน่นอนว่าพวกเราส่วนนึงก็คงจะเป็นมนุษย์เงินเดือนในบริษัทจีน ซึ่งเดี๋ยวนี้บริษัทจีนระดับโลกก็มีกันเยอะแยะ ไม่ว่าจะหัวเหว่ย เสียวหมี่ อาลีบาบา เลอโนโว ว่านต๋า Bright Food เริ่ดๆ ทั้งน้านนน

สุ่ยหลินได้รู้จักน้องคนนึงซึ่งมาเรียนคอร์ส HSK3 กับสุ่ยหลิน น้องเค้ามีพื้นฐานภาษาจีนที่โอเคอยู่แล้วเลยค่ะ เพราะทำงานที่หัวเหว่ยเมืองไทย  เลยกระซิบถามว่าทำงานกับบริษัทคนจีนค่าตอบแทนเป็นไงมั่ง? เค้าตอบว่าโอเลยค่ะ ไม่แพ้ใครในตลาด แต่ความคาดหวังก็สูง งานก็เยอะด้วย ซึ่งสุ่ยหลินว่าเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์เงินเดือนเอกชนสมัยนี้นะ ที่ไหนก็งานเยอะ ความคาดหวังก็สูงเหมือนกัน ที่นี้ถ้าเราอยากทำงานกับบริษัทจีนระดับโลกแบบนี้มั่ง?? เราจะทำยังไงดี??

นอกจากจะฝึกฝนภาษาจีนให้สื่อสารได้แล้ว ด่านอรหันต์ด่านแรกที่ต้องผ่านคือสอบสัมภาษณ์ใช่ป่าวคะ?? มาติดตามเทคนิค สัมภาษณ์งานบริษัทจีน ที่สุ่ยหลินรวบรวมมาให้ในโพสนี้เลยค่าา^^

น้องๆ คนไหนยังเป็นนักศึกษาอยู่ เรียนจบแล้วพี่สุ่ยหลินว่าก็ต้องใช้เหมือนกันน้า ดังนั้นอ่านได้ ไม่เปล่าประโยชน์เล้ยยย พี่สุ่ยหลินเอาหมวยเป็นตัวประกันน!! อิ อิ (ว่าแต่หมวยนี่ใครเนี่ย?)

ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนว่าแต่ละบริษัท ก็มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน หรือ HR บางทีก็มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ดังนั้น โพสนี้สุ่ยหลินขอเล่าเป็นภาพรวมกว้างๆ เอาไปประยุกต์ใช้กันต่อนะคะ^^

เริ่มกันตั้งแต่แรกเลยนะ

1.หาข้อมูลบริษัทที่เราไปสัมภาษณ์อย่างละเอียดก่อนไปสัมภาษณ์

ข้อนี้สุ่ยหลินว่าเป็นเรื่องทั่วไป ไม่ว่าบริษัทไทย บริษัทฝรั่ง หรือบริษัทจีน ก่อนไปสัมภาษณ์งาน นอกจากเตรียมสวยเตรียมหล่อให้ดูดีแล้ว เราควรเข้าไป search หาข้อมูลของบริษัทนั้นๆ อย่างละเอียดด้วยนะคะ สุ่ยหลินขอเพิ่มตรงนี้อีกนิดนุงคือ โดยทั่วไปแล้วถ้าเรา search หาข้อมูลของบริษัทจีนเป็นภาษาอังกฤษ เราจะได้ข้อมูลแค่ส่วนนึงแบบคร่าวๆ ไม่ละเอียดเท่าไหร่ แต่ถ้า search เป็นภาษาจีนเมื่อไหร่รับรองว่าดีเทลละเอียดเพรียบข่าาา เหตุผลก็เพราะคนจีนส่วนใหญ่เค้าไม่ถนัดภาษาอังกฤษเหมือนกัน ดังนั้นจะหาข้อมูลบริษัทจีน หาเป็นภาษาจีนจิคะ แน่นอนกว่า

หลายคนอาจนึกว่า ฮ่วย! อ่านไม่ออกอ่ะ! ยากเกิ๊น!! สุ่ยหลินแนะนำว่าไม่ได้ให้อ่านออกทุกตัวจักกะหน่อย อ่านคร่าวๆ พอเป็นไอเดีย ลองอ่านเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยก่อน อ่านให้พอได้ไอเดียแล้วไปอ่านภาษาจีนอีกที เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ใส่ใจกันหน่อย เช่นชื่อบริษัทเค้าต้องออกเสียงให้ถูก เช่น 大连万达 [Dàlián wàndá] ภาษาอังกฤษเขียนว่า Dalian Wanda Group  เรียนภาษาจีนมาแล้ว อย่าไปปล่อยไก่ทั้งเล้าด้วยการออกเสียงว่า “บริษัทดาเลียน วันดา”?? กลายเป็นบริษัทอินโดไป??!!

นอกจากนี้ คิดไว้เลยว่าความสามารถที่เรามี ประสบการณ์ที่เรามี วิชาตอนเรียนอะไรที่เรามี ทำอะไรให้บริษัทเค้าได้มั่งกับตำแหน่งที่เราจะสมัคร?? เพราะ HR ต้องถามแน่นอน?? โม้ในใจไว้ล่วงหน้า เขียนลงกระดาษไว้ ไปฝึกซ้อมตอบอย่างเป็นธรรมชาติ อย่าไปนั่งขาวจ๋องๆ ซีดๆ หน้า HR นะคับบบ

2. สัมภาษณ์งานบริษัทจีน อย่าสายยยยยยยยย

ข้อนี้สุ่ยหลินกล้าพูดเลยว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาหลักของคนไทย และกล้ายอมรับว่าเป็นปัญหาของสุ่ยหลินด้วยเหมือนกัน เพราะคนไทยสไตล์ชิวๆ เลทนิดหน่อย 5-10 นาทีไม่ว่ากัน ไม่เป็นไรน่าหยวนๆ เน่อ

แต่คนจีนเค้าไม่คิดงี้ การมาสายคือการไม่เคารพคนอื่นนะคับ ดังนั้น เผื่อเวลาไปถึงอย่างน้อย 10-15 นาที เอาเวลานี้เป็นนั่งสงบๆ ให้หายตื่นเต้น ไปฉี่ ไปดู (ว่าที่) บริษัทที่เราต้องทำงานในอนาคต ดีกว่าวิ่งแฮ่กๆ เข้าห้องประชุมแล้วบอกว่ารถติดค่าา!! เพราะเป็นข้ออ้างที่ไม่เวิร์คเลยจิงๆ นะ (รถมันก็ติดทุกวันอยู่แล้วอ่ะ)

3. มี Account Wechat หรือ Weibo ได้แล้วจ้า

ถึงตรงนี้เราก็ต้องรู้แล้วเนอะว่าคนจีนเค้าใช้ Line, Facebook, Instragram อะไรต่างๆ นานาไม่ได้ เพราะประเทศเค้าบล็อค รักจะสมัครงานบริษัทเค้าโปรดใช้ social media platform ที่เค้าใช้ ไม่งั้นเค้าจะติดต่อเรายังไงล่ะครัชช?? ไปสมัคร Account Wechat หรือ Weibo หรือ Renren อะไรไว้เลยค่าา และใส่ลงไปในช่องทางในการติดต่อกับเรา ให้เค้าสะดวกสบายในการติดต่อ เป็นผลดีกับเราอย่างแน่นอน!

สุ่ยหลินขอเน้นอีกอย่างว่า ขอให้ใส่ชื่อจีนลงไปใน display name และ resume ด้วยน้า เพราะคนจีนเค้าไม่ถนัดอ่านภาษาอังกฤษกัน ใครยังไม่มีชื่อจีนให้เหล่าซือตั้งให้ด่วนๆ ให้เค้าเรียกเราง่ายๆ จำชื่อเราง่ายๆ เราจะได้เป็นตัวเลือกแรกของเค้างัยกั๊บๆ

4. ทักทายให้ถูกธรรมเนียมเค้า

คนจีนสมัยใหม่เวลาเจอกันเค้าจับมือทักทายกันนะคะ แต่ก็มีธรรมเนียมของการจับมือกันอยู่ เค้าว่าคนที่ตำแหน่งน้อยกว่า อายุน้อยกว่าควรจะเป็นคนยื่นมือไปจับก่อน อีกมืออย่าล้วงกระเป่ากางเกงนะครัชช สบตาเค้าแล้วยิ้มแย้มเป็นอันจบพิธีค่า

เวลาเค้าให้นามบัตร (ซึ่งมักให้แน่ๆ ) ควรรับด้วย 2 มือ คนที่อาวุโสน้อยกว่าควรโค้งรับด้วยค่าา เสร็จแล้วทวนชื่อเค้าอีกทีจะดีมากๆ แล้ววางนามบัตรไว้หน้าเราระหว่างสัมภาษณ์เป็นการแสดงว่าเราใส่ใจนะจ๊ะ

5. พยายามหาจุดร่วมเกี่ยวกับเมืองจีนให้ได้

ถ้าเราเคยไปเรียนต่อ ระยะสั้น กลาง ยาว ซัมเมอร์หรือไปเที่ยวเมืองจีน แนะนำให้เล่าให้เค้าฟังคร่าวๆ ตอนแนะนำตัวเอง ว่าชอบเมืองจีนยังไง?? เคยไปเรียนมากี่เดือนกี่ปี? เคยไปทำงานมานานแค่ไหน? ไปเที่ยวมากี่หน? เตรียมบทสนทนาแนะนำตัวเองด้วยภาษาจีนไปนิดหน่อยจะดีมากค่าา ถึงแม้ตำแหน่งที่เราสมัครไม่คาดหวังว่าต้องพูดภาษาจีนได้ลื่นไหลก็ตามม

6. อย่าพยายามขมวดปมเรื่องเงินเดือนให้ได้ภายในการสัมภาษณ์ครั้งแรก (แต่ถ้ามีโอกาส จะถามก็ได้ แต่ก็ต้องกาลเทศะด้วยนะ)

ข้อนี้แตกต่างกับฝรั่งมาก ฝรั่งเค้าชอบแบบตรงไปตรงมาใช่ป่าวคะ ขอชัดๆ กันไปเลยยย จะจ่ายค่าตัวเท่าไหร่ว่ามา แต่คนจีนไม่ สังเกตดีๆ ภาษาจีนสะท้อนเรื่องการแสดงออกทางอ้อมของคนจีนเป็นอย่างมากเช่น เวลามีคนชมเราไม่ใช่จะตอบว่าขอบคุณค่ะ จบปิ้งซะที่ไหน? ถึงแม้คนรุ่นใหม่จะตอบกันแบบนี้ แต่ให้ถูกธรรมเนียมเค้าถือว่าต้องถ่อมตัวไว้ก่อน ด้วยการตอบว่า “ที่ไหนกั๊นนนๆ” “ชมเกินไปแล้วว” ถึงแม้ในใจจะยิ้มแก้มแตกก็เหอะน่าา

โดยปกติการสัมภาษณ์บริษัทจีนก็มักไม่ได้มีรอบเดียว เพราะคนจีนเค้าถือว่าความสัมพันธ์ต้องสร้างกันยาวๆไป บางคนเจอกันครั้งแรกแทบไม่ถามเรื่องงานเลยนะ แต่ดูว่าเราลักษณะบุคลิกเป็นไง ว่ากันง่ายๆ “คลิก” กันอ๊ะป่าาวกับบริษัท? HR ถูกใจมั๊ย? ชอบมั๊ย? แค่นั้นแล้วค่อยส่งต่อไปรอบ 2 ให้สัมภาษณ์กับคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องงานของเราโดยตรง ดังนั้นเรื่องเงินเดือนเอาไว้ต่อรองเมื่อเราเข้าสู่รอบสอง รอบสามของการสัมภาษณ์จะดีกว่าาค่าา

แต่ก็มีอีกความเห็นนึงค่ะ เค้าว่าเดี๋ยวนี้บริษัทจีนเค้าทันสมัยมากขึ้น ยอมรับสิ่งที่เป็นสากลมากขึ้นโดยเฉพาะบริษัทใหญ่ มีสาขานอกเมืองจีน มีพนักงานเป็นคนต่างชาติ การถามไถ่ถึงเรื่องเงินเดือนหรือสวัสดิการนั้นถือว่าทำได้ค่ะ แต่ก็ดูจังหวะ กาลเทศะด้วยนะจ๊ะ

จบแล้วค่าา สุ่ยหลินขอให้ใครที่ตั้งใจจะหางานบริษัทจีนได้งานกันทุกคนเลยนะคะ^^ ใครเคยมีประสบการณ์ สัมภาษณ์งานบริษัทจีน มาเล่าสู่กันฟังให้เพื่อนๆ คนอื่นเป็นวิทยาทานมั่งนะคะ สู้ๆ จ้า

สุ่ยหลิน^^

ปล. ถ้าไม่อยากพลาดโพสสนุกๆ จากสุ่ยหลินอย่าลืมกด see first ในแฟนเพจเรียนจีนให้ได้จีน ด้วยนะครัชช

see first

SHARE
Previous articleไวยากรณ์จีน ไม่เห็นยาก : 不能出来, 不会出来, 出不来 สรุปต่างกันยังไงหว่า??!!
Next articleเรื่องของ 都 “ทั้งหมดดดด”
สุ่ยหลิน เริ่มต้นจากการเป็นนักเขียนหนังสือภาษาจีน ตอนนี้มีผลงานหนังสือ 14 เล่มเป็นบก.หนังสืออีก 1 เล่ม คอร์สออนไลน์ Chinese Hack (ภาษาจีนเบื้องต้น) คอร์สออนไลน์ Pinyin และ คอร์สออนไลน์ HSK3 และ HSK4 ค่ะ เป้าหมายของสุ่ยหลินคือ ตั้งใจทำหนังสือ โพส คลิป Live และคอร์สออนไลน์สอนภาษาจีนที่เข้าใจง่าย สนุกไม่น่าเบื่อแต่ใช้งานได้จริงค่ะ นอกจากนี้ สุ่ยหลินยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสำนักพิมพ์ภาษาจีน ChineseBang 中文棒 อีกด้วยค่ะ