ภาษาจีนมี Tense หรือป่าว? วันนี้มีเฉลยนะตะเอง

14923
SHARE

ตอนเด็กๆ สมัยที่เราเรียนหนังสือในโรงเรียน เวลาเรียนวิชาภาษาอังกฤษสุ่ยหลินมั่นใจว่าทุกคนจะต้องถูกบังคับให้เรียนเรื่อง Tense แน่นอน เราต้องจำว่า Past Tense ต้องเติม ed นะ (แต่ก็มีบางตัวไม่เติมแถมเปลี่ยนรูปอีกต่างหาก!!) Present Tense ต้องมีรูปกริยาผันตามประธานนะ ส่วน Future Tense ก้อต้องมี will เป็นกริยาช่วยนะ ยังไม่นับ Present Perfect, Perfect Continuous, Past Perfect และอีกต่างๆ นานา กรี๊ด…นี่สุ่ยหลินไม่อยากจะบอกว่าคืนครูหมดแหล่ว เฮ้อ T_T

ที่นี้มาถึงภาษาจีน เลยอยากถามว่าภาษาจีนมี Tense กันไหมน้อออ?

ถ้าตอบเลยตามหลักไวยากรณ์ ตอบได้ว่าภาษาจีนไม่มี Tense หรอกค่าา เพราะไม่มีการผันรูปกริยาเมื่อเหตุการณ์เกิดในอดีต ปัจจุบันหรืออนาคต (กริยาตัวเดิมเด๊ะๆ ไม่เปลี่ยนรูป) แต่ถ้าไม่ได้พูดในแง่ไวยากรณ์ จะเรียกว่าภาษาจีนก็มี Tense แบบอ้อมๆ ก็ได้ แต่ไม่ได้เกิดจากการผันกริยา แต่เกิดจากการเติมคำบางคำเพื่อบอกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ยังไม่เกิด หรือกำลังจะเกิดเหมือนกัน ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ต่างกับภาษาไทยเลยนะคะ เพราะภาษาไทยก็ไม่มีการผันรูปกริยาเหมือนกัน และใช้วิธีเติมคำต่างๆ เข้าไปแทน เช่น “แล้ว” “จะ” “ยัง” “เสร็จ” เพื่อบอกสถานะของเหตุการณ์นั้นๆ แบบเดียวกับภาษาจีนเลยค่าาา

ถ้างั้นเรามารู้จักคำพวกนี้กันดีกว่าเพราะมีแค่ 5 ตัวเอ๊ง ซึ่งแค่ 5 ตัวเนี้ยก็เกือบครอบคลุมการบอก Tense ทั้งหมดในภาษาจีนล่ะ แถมที่สำคัญทั้ง 5 ตัวเนี่ย สุ่ยหลินมั่นใจว่าทุกคนรู้จักดีเป็นแน่แท้ๆ (ใครที่เรียนภาษาจีนมาแล้ว บอกไม่รู้จักซักตัวจะต้องโดนตีมือ)

 

คำที่ 1 [le]

114_了

คำนี้เป็นคำครอบจักรวาลโลก (เว่อร์! จริงจริ๊ง) เพราะเห็นบ่อยมว๊ากกกในภาษาจีน 了 ในที่นี่ก็คือ “แล้ว” นั่นเอง บอกว่าทำอะไรแล้ว กินอะไรแล้ว ดูหนังแล้ว ฯลฯ ลักษณะการใช้ 了 ส่วนนึงจะพูดว่าประมาณ Past Tense ในภาษาอังกฤษคงพอได้ แต่ภาษาจีนง่ายกว่าเย๊อะะ เพราะแค่เติม 了 ตัวเดียวก็จบข่าวค่าา ไม่ต้องวุ่นวายผันรูปกิริยาให้เปลืองสมอง อิ อิ

เช่น 爸爸回来 [Bàba huílái le] = พ่อกลับมาแล้ว

我学一年多中文。[Wǒ xué le yī nián duō Zhōngwén] = ชั้นเรียนภาษาจีนมาปีกว่าแล้ว

หรือ.. บอกว่าเหตุการณ์มีการเปลี่ยนแปลงก็ได้นะ เช่น 下雨 [Xiàyǔ le] = ฝนตกแล้ว (ก่อนหน้านี้ยังไม่ตก)

รายละเอียดเรื่อง 了 และการใช้ยังมีอีกเยอะ ตามไปอ่านกันได้ที่นี่นะจ๊ะ

了 อ่านก็ออก เขียนก็ง่าย (อ่านโพสนี้แล้ว)ใช้เป็นชัวร์ๆ จ้าา!!

คำที่ 2 [zhe]

เราใช้ 着 [zhe] เพื่อเน้นเหตุการณ์ที่ดำเนินต่อเนื่องมาจากอดีต ยังคงดำเนินอยู่ในปัจจุบันและจะดำเนินต่อไปในอนาคตค่ะ ซึ่งคำว่า 着 จะอยู่หลังกริยา แปลได้ว่า “(กำลังทำกริยานั้นหรือคงสภาพนั้น) อยู่” ค่ะ เป็นการเน้นว่ากริยานั้นยังดำเนินอยู่ต่อเนื่องและยังไม่จบ เช่น [chī zhe] = กินอยู่ , [kàn zhe] = ดูอยู่ , [shuō zhe] = พูดอยู่ ไม่ยากเลยใช่ป่าว 🙂

 

คำที่ 3 [guò]

คำนี้สุ่ยหลินมั่นใจว่าต้องเคยเห็นกันแน่ๆ 过 ก็คือ “เคย” นั่นเองค่าา  ตำแหน่งของ 过 คือวางไว้หลังกริยา เพื่อบอกว่าเคยทำกริยานั้นมาแล้วในอดีต ซึ่งตอนนี้ได้จบลงแล้ว

เช่น 我去中国 。[wǒ qù guò Zhōngguó] = ฉันเคยไปประเทศจีนมาแล้ว

บางทีใช้คู่กับ 了ก็ได้น้า เป็น กริยา + +
เช่น 吗? [Chī guò le ma?] = เคยกินมาก่อนละยัง
[Chī guò le] = เคยกินมาแร้วว

 

คำที่ 4 正在 [zhèngzài]

6868554725

คำนี้แอดวานซ์ขึ้นมาหน่อยนะมักวางอยู่หน้ากริยา แปลได้ว่า “กำลัง” หรือ “กำลัง…พอดี” ค่ะ ใกล้เคียงกับ Continuous Tense ในภาษาอังกฤษค่ะ เช่น

正在读书。[Wǒ zhèngzài dúshū] = ชั้นกำลังอ่านหนังสือ

จริง ๆ คำว่า 正在 กะ 着 มีความใกล้เคียงกันค่ะ บางทีก็ใช้พร้อมๆ กันในประโยคเดียวกันด้วย ดูตัวอย่างประโยคพวกนี้ค่าา (สุ่ยหลินทำสีไว้ให้เห็นนะคะ^^)

他吃饭。[Tā chī zhe fàn] = เขาทานข้าวอยู่

正在吃饭。[Tā zhèngzài chīfàn] = เขากำลังทานข้าว

正在饭。[Tā zhèngzài chī zhe fàn] = เขากำลังทานข้าวอยู่พอดี

แต่ก็มีบางประโยคที่มีความแตกต่างนะคะเช่น

正在穿衣服。
Tā zhèngzài chuān yīfu.
เขากำลังใส่เสื่อผ้า (กำลังสวมเสื้อสวมกางเกงอยู่)

他穿衣服。
Tā chuānzhuó yīfu.
เขาใส่เสื้อผ้าอยู่ (บนตัวเขามีเสื้อผ้าอยู่ ไม่ได้โป้)

คือ 正在穿衣服 เน้นกริยาที่กำลังใส่เสื้อผ้า ส่วน 穿着衣服 เน้นสภาพที่คงอยู่ของการใส่เสื้อผ้านั่นเองค่ะ

 

คำที่ 5 [yào]

2013891932271471972

ตัวสุดท้ายแต่ง่ายที่สุดเลยก็คือ 要 แปลได้ว่า “จะ” นั่นเองงงง วิธีการคือใช้ 要 วางหน้ากิริยา เทียบได้กับ Future Tense ในภาษาอังกฤษเลยค่ะ

เช่น 我明天去银行。[Wǒ míngtiān yào qù yínháng] = ชั้นจะไปธนาคารพรุ่งนี้
她下午请假。[Tā xiàwǔ yào qǐngjià] = บ่ายนี้เธอจะลาล่ะ เป็นต้น

อยากรู้เรื่อง 要 แบบละเอียด อ่านกันต่อที่ 5 วิธีใช้ 要 ให้ถูกกกก!!

คราวนี้เราก็ใช้กันได้อย่างง่ายๆ แล้วนะคะ เอาจริงๆ คือไม่ยากเท่าไหร่ใช่ไหม เพราะเหมือนๆ กับที่เราพูดภาษาไทยเลยน้า ไม่ครนามือเราหร๊อกแค่นี้เอ๊ง

————

ฝากข่าวสำหรับคนที่สนใจงานเขียนสไตล์สุ่ยหลินนะคะ หนังสือ “เรียนจีน ให้ได้จีน” มีขายในรูปแบบ eBook แล้วนะคะ หนังสือเล่มนี้แบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่ๆ คือ ปัญหาที่คนไทยเพิ่งเริ่มต้นเรียนภาษาจีนเจอบ่อยๆ และวิธีแก้ ความรู้พื้นฐานภาษาจีนที่คนเริ่มต้นเรียนต้องรู้ และศัพท์สแลงจีน ศัพท์ในโลกโซเชี่ยลยอดฮิต

พิเศษสุดค่ะ สุ่ยหลินเพิ่มเติมเนื้อหาท้ายบทนั่นคือ 偏旁 [piānpáng] อักษรข้างในภาษาจีนที่เจอบ่อยที่สุดจำนวน 15 หมวดอักษร


Thumbnail Seller Link
เรียนจีน ให้ได้จีน
ChineseBang 中文棒
www.mebmarket.com
ทุกวันนี้เรารู้กันดีว่า ภาษาจีนเริ่มมีบทบาทสำคัญในโลกนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ดูตัวอย่างใกล้ตัวเราก็จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนในบ้านเราก็ได้ หรือจะดูไกลกว่า…
Get it now

 

 

เนื้อหาทั้งหมดถูกเอามาเรียบเรียงให้อ่านง่ายสไตล์เรื่องเล่า แบบสุ่ยหลินเล่าให้แฟนเพจฟัง อธิบายง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ใช้ประโยชน์ได้จริง ถือเป็นคู่มือสามัญประจําบ้านที่ผู้เริ่มเรียนจีนทุกคนต้องมีนะคะ

อย่าพลาดนะคะ สุ่ยหลินรับประกันความดีงามค่า

สุ่ยหลิน^^

SHARE
Previous article12 + 4 คำอุทานที่เจอบ่อยๆ ในภาษาจีน
Next articleโลกของเราก่อน smartphone มาถึง เป็นยังไงน้า???
สุ่ยหลิน เริ่มต้นจากการเป็นนักเขียนหนังสือภาษาจีน ตอนนี้มีผลงานหนังสือ 14 เล่มเป็นบก.หนังสืออีก 1 เล่ม คอร์สออนไลน์ Chinese Hack (ภาษาจีนเบื้องต้น) คอร์สออนไลน์ Pinyin และ คอร์สออนไลน์ HSK3 และ HSK4 ค่ะ เป้าหมายของสุ่ยหลินคือ ตั้งใจทำหนังสือ โพส คลิป Live และคอร์สออนไลน์สอนภาษาจีนที่เข้าใจง่าย สนุกไม่น่าเบื่อแต่ใช้งานได้จริงค่ะ นอกจากนี้ สุ่ยหลินยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสำนักพิมพ์ภาษาจีน ChineseBang 中文棒 อีกด้วยค่ะ