สวัสดีค่ะมิตรรักแฟนเพจที่น่ารักของสุ่ยหลินทุกคนคะ^^ โพสนี้สุ่ยหลินขอจัดไวยากรณ์ที่เจอบ่อยมาให้แฟนเพจค่าา ไวยากรณ์ตัวนี้ว่าด้วยเรื่องคำบุพบท (介词) กันค่ะ อ่านแล้วอย่าเพิ่งทำหน้าเบื่อ! เพราะพวกเราคนเรียนภาษาจีนใหม่ๆ ต้องมีงงกันแน่ ยิ่งกับคำบุพบท 给 อย่างประโยคในหัวเรื่อง คืองงว่า เค้าเป็นคนซื้อหนังสือ หรือว่าชั้นเป็นคนซื้อหนังสือกันแน่???
จะตอบคำถามได้ต้องรู้จักคำบุพบทในภาษาจีนกันก่อนนะ งั้นไม่รอช้ามารู้จักคำบุพบทกันในโพสนี้ของสุ่ยหลินค่า^^
คำบุพบท 介词 [jiècí]
เราใช้คำบุพบทนี้วางไว้หน้าคำนามหรือสรรพนาม เพื่อบ่งบอกความสัมพันธ์ระหว่างคำนามที่ตามหลังคำบุพบทกับกริยาหลักของประโยคค่ะ หรือพูดง่ายๆ คือเป็นส่วนขยายกริยา หรือบอกรายละเอียดของกริยา เช่น บอกสถานที่เกิดของกริยา บอกทิศทางของกริยา บอกจุดหมายของกริยา เราลองมาดูตัวอย่างประโยคข้างล่างกันนะคะ ว่าเป็นไง
-บอกสถานที่ที่เกิดการกระทำ
他在家吃饭。
Tā zàijiā chīfàn.
เค้ากินข้าว “ที่บ้าน”
-บอกทิศทางการเคลื่อนที่ของประธาน
他从书店走出来了。
Tā cóng shūdiàn zǒu chūláile.
เค้าเดินออกมา”จากร้านหนังสือ”
และยังมีคำบุพบทอื่นๆ อีกเพรียบ เช่น 向 [xiàng], 往 [wǎng], 进 [jìn], 被 [bèi], 叫 [jiào], 让 [ràng] และ 为 [wèi] ซึ่งทั้งหมดถูกใส่มาในประโยคก็เพื่อขยาย บอกรายละเอียดของกริยานั่นเอง
โดยปกติแล้ว คำบุพบทจะไม่ได้มาเดี่ยวๆ ค่ะ คือต้องมีคำนามหรือวลีที่เป็นคำนามมาต่อท้ายบุพบทด้วย
คราวนี้มาดูตำแหน่งการวางบุพบทในประโยคทั่วๆไปกันค่ะ
ประธาน +(วิเศษณ์)+ บุพบท + คำนามหรือวลีที่เป็นคำนาม + กริยา + (กรรม)
他跟他的朋友吃午饭。
Tā gēn tā de péngyǒu chī wǔfàn.
เค้ากินข้าวกลางวัน “กับเพื่อน”
你慢慢地跟我说吧。
Nǐ mànman de gēn wǒ shuō ba.
คุณพูด”กับชั้น” ช้าๆ หน่อย
แต่จะมีคำในภาษาจีนบางคำค่ะ ที่เป็นได้ทั้งคำบุพบทและคำกริยา อย่างเช่น 在 [zài], 给 [gěi], 到 [dào], 对 [duì] และ 跟 [gēn] ค่ะ โดยเฉพาะ 给 นี่แหละตัวดี ชอบทำให้เรางง?? เข้าใจผิดไปอยู่เรื่อย TT
อย่างประโยคที่จั่วหัวไว้ข้างบน 他给我买了一本书。[Tā gěi wǒ mǎile yī běn shū.]
จะแปลว่า “เค้าให้ฉันซื้อหนังสือเล่มนึง” หรือว่า “เค้าซื้อหนังสือเล่มนึงให้ฉัน” กันแน่??
เจอแบบนี้ต้องแยกแยะให้ได้ก่อนว่า 给 ในประโยคบนเป็นคำประเภทไหนล่ะ เป็นกริยาหรือบุพบทล่ะเอ้า?
งั้นเรามาสังเกตวิธีแยกแยะ ว่าคำนั้นเป็นคำบุพบทหรือไม่กันค่ะ
1. อย่างแรก คือดูว่ามีกริยาตัวอื่น (นอกจากคำที่เรากำลังสงสัยว่ามันเป็นคำบุพบทหรือคำกริยา) อีกมั๊ย?
ถ้าไม่มีกริยาตัวอื่นในประโยค ตัวที่เราสงสัยนั่นแหละคือคำกริยาค่า
ลองเทียบ 在 ของทั้งสองประโยคข้างล่างค่ะ
สีแดงคือคำบุพบท สีเขียวคือคำนามตามท้ายบุพบท สีน้ำเงินคือคำกริยา
他在家。
Tā zài jiā.
เค้าอยู่บ้าน (在 เป็นคำกริยาค่ะ เพราะในประโยคไม่มีกริยาตัวอื่นแล้ว)
他在家吃饭。
Tā zài jiā chīfàn.
เค้าอยู่บ้านกินข้าว (在 เป็นคำบุพบทค่ะ บอกสถานที่ที่กระทำกริยา 吃)
2. ต้องไม่มีอะไรมาคั่นกลางระหว่างคำบุพบทและคำนามที่ต่อท้ายมา
他给了你需要的东西。
Tā gěile nǐ xūyào de dōngxi.
เค้าให้ของที่เธอต้องการ
给了你 มี 了มาคั่นกลางระหว่าง 给 และ 你 ดังนั้น 给 จึงเป็นคำกริยาค่ะ (着,了และ 过 ตามหลังคำกริยาค่ะ จำกันได้มั๊ยเอ่ย)
คราวนี้มาดูประโยคนี้อีกที 他给我买了一本书。
ลองแบ่งส่วนดูนะจ๊ะ
他+ 给 + 我 + 买 +了 + 一本书。
ประธาน + บุพบท + คำนามหรือวลีที่เป็นคำนาม + กริยา +了+ กรรม
ดังนั้นประธานก็คือเค้า 他 เป็นคนทำกริยาซื้อ 买 และกรรมก็คือหนังสือ 书 นั่นเองค่ะ
ส่วน 给 เป็นคำบุพบทบอกเป้าหมายของกริยา 买 ว่า 买 แล้วไงต่อ ซึ่งในประโยคนี้ก็คือซื้อ 买 แล้วเป้าหมายก็คือ 给我 ให้ฉันไง แหม! ขอบคุณนะจ๊ะ ใจดีจัง!
ลองอีกตัวอย่างนึงนะ
你什么时候到我家来?
你 + 什么时候 + 到 + 我家 + 来?
ประธาน + วลีบอกเวลา + บุพบท + คำนามหรือวลีที่เป็นคำนาม + กริยา
ประธานคือ 你 ทำกริยาคือ 来 โดยมีบุพบท 到 บอกการเคลื่อนที่ไปยังจุดหมาย ซึ่งก็คือ 我家 (และมีวลีบอกเวลาแสดงเวลาที่เกิดการกระทำนั้น ในที่นี้วลีบอกเวลาเป็นคำถามด้วยนะจ๊ะคือ 什么时候 )
แปลได้ความว่า เธอจะมาถึงบ้านฉันกี่โมงจ๊ะ?
คราวนี้พอจะเข้าใจแล้วนะจ๊ะว่าคำบุพบทคืออะไร และสามารถแยกออกว่ามันเป็นคำบุพบทหรือคำกริยากันแน่ได้แล้วเนอะ สู้ๆจ้า
สุ่ยหลิน^^