他给我买了一本书。 ตกลงว่า 他 หรือ 我 ใครกันแน่ที่เป็นคนซื้อหนังสือ??

34878
SHARE

สวัสดีค่ะมิตรรักแฟนเพจที่น่ารักของสุ่ยหลินทุกคนคะ^^  โพสนี้สุ่ยหลินขอจัดไวยากรณ์ที่เจอบ่อยมาให้แฟนเพจค่าา ไวยากรณ์ตัวนี้ว่าด้วยเรื่องคำบุพบท (介词) กันค่ะ อ่านแล้วอย่าเพิ่งทำหน้าเบื่อ! เพราะพวกเราคนเรียนภาษาจีนใหม่ๆ ต้องมีงงกันแน่ ยิ่งกับคำบุพบท 给 อย่างประโยคในหัวเรื่อง คืองงว่า เค้าเป็นคนซื้อหนังสือ หรือว่าชั้นเป็นคนซื้อหนังสือกันแน่???

จะตอบคำถามได้ต้องรู้จักคำบุพบทในภาษาจีนกันก่อนนะ งั้นไม่รอช้ามารู้จักคำบุพบทกันในโพสนี้ของสุ่ยหลินค่า^^

คำบุพบท 介词 [jiècí]

เราใช้คำบุพบทนี้วางไว้หน้าคำนามหรือสรรพนาม เพื่อบ่งบอกความสัมพันธ์ระหว่างคำนามที่ตามหลังคำบุพบทกับกริยาหลักของประโยคค่ะ หรือพูดง่ายๆ คือเป็นส่วนขยายกริยา หรือบอกรายละเอียดของกริยา เช่น บอกสถานที่เกิดของกริยา บอกทิศทางของกริยา บอกจุดหมายของกริยา เราลองมาดูตัวอย่างประโยคข้างล่างกันนะคะ ว่าเป็นไง

-บอกสถานที่ที่เกิดการกระทำ
吃饭。
Tā zàijiā chīfàn.
เค้ากินข้าว “ที่บ้าน”

-บอกทิศทางการเคลื่อนที่ของประธาน
书店走出来了。
Tā cóng shūdiàn zǒu chūláile.
เค้าเดินออกมา”จากร้านหนังสือ”

และยังมีคำบุพบทอื่นๆ อีกเพรียบ เช่น 向 [xiàng], 往 [wǎng], 进 [jìn], 被 [bèi], 叫 [jiào], 让 [ràng] และ 为 [wèi] ซึ่งทั้งหมดถูกใส่มาในประโยคก็เพื่อขยาย บอกรายละเอียดของกริยานั่นเอง

โดยปกติแล้ว คำบุพบทจะไม่ได้มาเดี่ยวๆ ค่ะ คือต้องมีคำนามหรือวลีที่เป็นคำนามมาต่อท้ายบุพบทด้วย

คราวนี้มาดูตำแหน่งการวางบุพบทในประโยคทั่วๆไปกันค่ะ
ประธาน +(วิเศษณ์)+ บุพบท + คำนามหรือวลีที่เป็นคำนาม + กริยา + (กรรม)

他的朋友吃午饭。
Tā gēn tā de péngyǒu chī wǔfàn.
เค้ากินข้าวกลางวัน “กับเพื่อน”

你慢慢地说吧。
Nǐ mànman de gēn wǒ shuō ba.
คุณพูด”กับชั้น” ช้าๆ หน่อย

แต่จะมีคำในภาษาจีนบางคำค่ะ ที่เป็นได้ทั้งคำบุพบทและคำกริยา อย่างเช่น 在 [zài], 给 [gěi], 到 [dào], 对 [duì] และ 跟 [gēn] ค่ะ โดยเฉพาะ 给 นี่แหละตัวดี ชอบทำให้เรางง?? เข้าใจผิดไปอยู่เรื่อย TT

อย่างประโยคที่จั่วหัวไว้ข้างบน 他给我买了一本书。[Tā gěi wǒ mǎile yī běn shū.]
จะแปลว่า “เค้าให้ฉันซื้อหนังสือเล่มนึง” หรือว่า “เค้าซื้อหนังสือเล่มนึงให้ฉัน” กันแน่??
เจอแบบนี้ต้องแยกแยะให้ได้ก่อนว่า ในประโยคบนเป็นคำประเภทไหนล่ะ เป็นกริยาหรือบุพบทล่ะเอ้า?

งั้นเรามาสังเกตวิธีแยกแยะ ว่าคำนั้นเป็นคำบุพบทหรือไม่กันค่ะ

1. อย่างแรก คือดูว่ามีกริยาตัวอื่น (นอกจากคำที่เรากำลังสงสัยว่ามันเป็นคำบุพบทหรือคำกริยา) อีกมั๊ย?
ถ้าไม่มีกริยาตัวอื่นในประโยค ตัวที่เราสงสัยนั่นแหละคือคำกริยาค่า

ลองเทียบ 在 ของทั้งสองประโยคข้างล่างค่ะ
สีแดงคือคำบุพบท สีเขียวคือคำนามตามท้ายบุพบท สีน้ำเงินคือคำกริยา


Tā zài jiā.
เค้าอยู่บ้าน (在 เป็นคำกริยาค่ะ เพราะในประโยคไม่มีกริยาตัวอื่นแล้ว)

饭。
Tā zài jiā chīfàn.
เค้าอยู่บ้านกินข้าว (在 เป็นคำบุพบทค่ะ บอกสถานที่ที่กระทำกริยา 吃)

2. ต้องไม่มีอะไรมาคั่นกลางระหว่างคำบุพบทและคำนามที่ต่อท้ายมา 

需要的东西。
Tā gěile nǐ xūyào de dōngxi.
เค้าให้ของที่เธอต้องการ
给了你 มี 了มาคั่นกลางระหว่าง 给 และ 你 ดังนั้น 给 จึงเป็นคำกริยาค่ะ (着,了และ 过 ตามหลังคำกริยาค่ะ จำกันได้มั๊ยเอ่ย)

 

คราวนี้มาดูประโยคนี้อีกที 他给我买了一本书。

ลองแบ่งส่วนดูนะจ๊ะ
他+ + + +了 + 一本书。
ประธาน + บุพบท + คำนามหรือวลีที่เป็นคำนาม + กริยา +了+ กรรม

ดังนั้นประธานก็คือเค้า เป็นคนทำกริยาซื้อ และกรรมก็คือหนังสือ นั่นเองค่ะ
ส่วน   เป็นคำบุพบทบอกเป้าหมายของกริยา ว่า แล้วไงต่อ ซึ่งในประโยคนี้ก็คือซื้อ  แล้วเป้าหมายก็คือ ให้ฉันไง แหม! ขอบคุณนะจ๊ะ ใจดีจัง!

ลองอีกตัวอย่างนึงนะ
你什么时候到我家来?

你 + 什么时候 + + 我家 + ?
ประธาน + วลีบอกเวลา + บุพบท + คำนามหรือวลีที่เป็นคำนาม + กริยา

ประธานคือ ทำกริยาคือ โดยมีบุพบท บอกการเคลื่อนที่ไปยังจุดหมาย ซึ่งก็คือ 我家 (และมีวลีบอกเวลาแสดงเวลาที่เกิดการกระทำนั้น ในที่นี้วลีบอกเวลาเป็นคำถามด้วยนะจ๊ะคือ 什么时候 )
แปลได้ความว่า เธอจะมาถึงบ้านฉันกี่โมงจ๊ะ?

คราวนี้พอจะเข้าใจแล้วนะจ๊ะว่าคำบุพบทคืออะไร และสามารถแยกออกว่ามันเป็นคำบุพบทหรือคำกริยากันแน่ได้แล้วเนอะ สู้ๆจ้า

สุ่ยหลิน^^