สาระนอกตำรา

Home เรียนจีน สาระนอกตำรา

ภาษาจีน ไต้หวัน VS แผ่นดินใหญ่ จีนเดียวกันไหงพูดม่ะเหมือนกัลลล

สวัสดีจ้า แฟนเพจที่รักของสุ่ยหลิน วันนี้สุ่ยหลินกลับมาพร้อมกับคำถามที่ได้ยินบ๊อยบ่อย จะไปเรียนที่ไหนดีระหว่างจีนแผ่นใหญ่กับไต้หวัน ภาษาจีน อันไหนดีกว่ากัน แล้วต่างกันจังได๋? เรียนมาแบบไหนใช้ประโยชน์ได้มากกว่า? หนุ่มชาติไหนหล่อกว่ากัลล อุ๊ยย! เย้ยยย….นอกเรื่องไปไกล อิ อิ

มาติดตามความเหมือนและต่างของภาษาจีนไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ได้ในโพสนี้ครัชชช

คนจีน คนเกาหลี คนญี่ปุ่นหน้าตาเค้าต่างกันยังไงนะ??

สวัสดีค่ะแฟนเพจที่น่ารักของสุ่ยหลินทุกคน หลังจากคร่ำเคร่งกับการเรียนภาษาจีนมาแล้วทั้งอาทิตย์ ก็ได้เวลามาพักสมองกันมั่งแล้วนะคะ เรียนมากไปเดี๋ยวปวดหัว อิ อิ

วันนี้สุ่ยหลินมีเรื่องนึงอยากเล่าให้ฟัง ตอนสุ่ยหลินไปเรียนเมืองจีนเนี่ย แรกๆ รู้สึกสับสนเหมือนกันว่าคนๆ เนี้ยหน้าตาหมวยๆ เอเชี่ยนๆ แบบเนี้ยเป็นคนชาติไหนกันแน่ ที่สับสนบ่อยสุด ก็คือสามชาตินี้แหละค่ะ จีน เกาหลีและญี่ปุ่น ยิ่งสังคมนักเรียนต่างชาติในจีนด้วย คนเกาหลี คนญีปุ่นเดินกันให้คึ่ก แถมคนอื่นมาเจอหน้าสุ่ยหลิน ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ว่าเจ้คนนี้หน้าแบบนี้ แต่ดันพูดจีนม่ะได้ 55 (ตอนนู้น) สร้างความงงงวยเวลาคุยกันยิ่งนัก

ตอนแรกก็คิดว่าสุ่ยหลินสงสัยเรื่องเนี้ยอยู่คนเดียว คงไม่มีใครมาใส่ใจหรอกม๊างเรื่องจุ๋มจิ๋มแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วตอนหลังถึงรู้ว่ามีคนอื่นสับสนเรื่องนี้เหมือนกันค่า เลยมีการคุยกันว่าเราจะแยกความแตกต่างของคนสามชาตินี้ยังไงด้วยลักษณะภายนอก สุ่ยหลินว่ามีประโยชน์ดี เพราะเอาจริงๆคนจีนบางคนก็ไม่ชอบคนญี่ปุ่นมาก เพื่อนญี่ปุ่นเคยไปเที่ยวด้วยกันกับสุ่ยหลินเค้ากระซิบบอกเลยค่ะว่าให้สุ่ยหลินเป็นคนพูด เพราะเวลาเค้าพูดกับแม่ค้าแม่ขาย คนขับรถแท็กซี่พวกนี้ฟังสำเนียงเค้าออกชัดว่าเป็นคนญี่ปุ่น เดี๋ยวจะโดนปฏิบัติไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วนคนญี่ปุ่นบางคนเวลาเราเข้าใจผิดคิดว่าเค้าเป็นคนจีน เค้าก็ไม่พอใจนะคะ สุ่ยหลินเข้าใจว่าทั้งหมดนี้มาจากเรื่องการเมืองสมัยนี้กะเรื่องสงครามในอดีต ไม่ว่าจะเป็นสงครามนานกิงที่คนจีนถูกทหารญี่ปุ่นฆ่าตายอย่างทารุณกรรมไปเยอะ และอื่นๆค่ะ

มาติดตามวิธีแยกคนสามชาตินี้ (ด้วยตาเปล่า อิอิ) ได้ ในโพสนี้กะสุ่ยหลินค่าา^^

笨 ,呆 และ 傻 “โง่” “มึน” “ปญอ” ในภาษาจีน รู้ว่าใช่ว่า เรียนไว้ใครก็มาด่าไม่ได้!

笨蛋 呆子 傻瓜

สวัสดีค่ะแฟนเพจที่น่ารักของสุ่ยหลิน^^ ภาษาจีนมีคำด่าเย๊อะมากๆๆ เอาเป็นว่าด่าแบบเบาะๆ ด่าแบบแรงๆ ด่าแบบอ้อมๆ ด่าเป็นเหน็บๆ สารพัดสารพันคำด่านะ แต่ว่าหนังสือเรียนไม่ค่อยจะสอนมาก ซึ่งมันก็ถูกอ่ะนะเพราะว่าหนังสือเรียนไงจะสอนมากก็ไม่ได้ ผิดธรรมเนียม แต่คนจีนในชีวิตประจำวันใช้เยอะมากค่าา มันๆ ก็จะเจ็บๆ หน่อยเวลาโดนด่า 555

และในบรรดาคำด่าที่เจอบ๊อยบ่อยที่สุด สุ่ยหลินขอยก 3 คำนี้ค่ะ ได้แก่คำว่า 笨蛋 [bèndàn] 呆子 [dāizi]  และ 傻瓜 [shǎguā]  ทั้ง 3 คำมีความหมายคล้ายกันว่า “โง่” หรือไม่ฉลาด แล้วทำไมต้องมี 3 คำ?? มันมีเหตุผลนะ มาติดตามว่า 3 คำนี้ต่างกันตรงไหนเวลาจะด่าโง่ หรือด่าว่าไม่ฉลาดนะจ๊ะ

ปล. โพสนี้เพื่อการศึกษานะจ๊ะ อย่าลืมว่าต่อให้เราไม่เรียน คนจีนก็ใช้แบบนี้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว

บอกรักภาษาจีนด้วยตัวเลข? ฉบับคนขี้อายก็บอกได้น้าาา!!

เค้าว่าคนสมัยนี้อายที่จะบอกรักกัน ยิ่งกับครอบครัว กับพ่อ กับแม่ยิ่งแล้วใหญ่ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เขินนนนฝุดๆ เลยทีเดียว สุ่ยหลินว่าส่วนนึงเพราะสังคมทำให้เราต่างคนต่างอยู่กันมากขึ้น โอกาสใกล้ชิดอะไรๆ กันก็น้อยลงไปด้วย พอจะพูดความในใจที ก็รู้จักอึกๆ อักๆ มือไม้เกะเกะแทบไม่รู้จะทำหน้ายังไง วางมือไหนดี ><‘

ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่เฉพาะเมืองไทยนะที่เป็นแบบนี้ ที่จีนก็เหมือนกันเลย เคยมีคลิปวีดีโอเด็กจีนบอก “我爱你” กับพ่อแม่แต่โดนถามกลับมาว่า “นี่เมาหรือเปล่าเนี่ย!” คลิปฮาๆ นั้นเลยดังยอดวิวกระจายไป

ในเมื่อเดี๋ยวนี้เราไม่กล้าบอกกันตรงๆ วันนี้สุ่ยหลินขอเสนอวิธีบอกรักแบบจีนโดยใช้หมายเลขกันค่ะ เอาไว้บอกรักพ่อแม่ หรือคนที่แอบชอบอยู่ก็ได้น้าาา

ฝรั่งเค้าก็ฮิตรอยสัก 纹身 [wénshēn] อักษรจีนเหมือนกันนะ!

เรื่องการสักเพื่อความสวยความงามเนี่ย สุ่ยหลินคิดเอาเองว่าฝรั่งเป็นคนริเริ่ม ทางบ้านเราสักเพื่อความคงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่เข้า หรือไม่ก็สักเพื่อลงโทษอ่ะค่ะ

หลายปีมาเนี่ย มีข่าวว่าดารา นักร้อง นักกีฬาฝรั่งหลายคนหันมาสักตัวอักษรจีนมากขึ้น สุ่ยหลินคิดว่าเพราะตัวอักษรจีนอ่อนช้อย สวยงาม ดูเท่ดีด้วยอ่ะ รองลงไปคือความหมายดีๆ ที่แฝงอยู่ในรอยสักนั้นๆ

12 ประโยคบอกรักใช้แทน 我爱你 เดวจะดาดเกิ๊นน!!

สุ่ยหลินว่าเรารู้จักคำว่า 我爱你 เป็นอย่างดีเนอะ แถมเราก็ใช้กันเป็น ใช้กันบ่อยๆ ได้อีกตังหาก อิ อิ ^^ แต่จริงๆ แล้วภาษาจีนมีคำบอกรัก แอบชอบอีกหลายคำ มากว่าคำว่า 我爱你 อีกนะคะ

วันนี้มารู้จักคำพวกนี้กัลดีกว่า เผื่อมีใครบอกเรา อร้าายยยยย…  หรือเผื่อเราจะบอกใครจะได้ไม่ต้องบอกโต้งๆ เดวไก่ตื่น ว่าม่ะ??

ติดตามจ้าา….

อยากรู้จังสนมนางในสมัยก่อน วันๆ เค้าทำอะไรกันนะ??

สวัสดีค่าแฟนเพจที่น่ารักของสุ่ยหลินทุกคน^^ ถ้ายังจำกันได้สุ่ยหลินเคยเขียนโพส 2 เรื่อง อยากรู้จังผู้หญิงจีนสมัยก่อน เค้าแต่งตัวกันยังไงนะ??  กับ อยากรู้จังผู้หญิงจีนสมัยก่อน เค้าแต่งหน้ากันยังไงนะ?? แล้วแฟนเพจที่น่ารักชอบมั่กๆ สุ่ยหลินเลยสัญญาว่าจะหาเรื่องแนวๆ นี้มานำเสนออีก^^

คราวนี้ได้เวลาแล้วล่ะค่ะ พวกเราเคยสงสัยเหมือนสุ่ยหลินมั๊ยว่า สาวๆ นางใน สนมกำนัลของฮ่องเต้ในสมัยก่อนเนี่ย วันๆ เค้าทำอะไรกันนะ?? อย่าว่าแต่เฟสไม่มี ไลน์ไม่ได้ instragram ไม่รู้จัก แม้แต่ไฟก็ยังไม่มี พระอาทิตย์ตกก็มืดแล้ว วิทยุ ทีวี โทรเลข (อุ๊บ! รู้อายุเบย!) อะไรต่างๆ นานาก็ไม่มี แถมอีกอย่าง สาวๆ ชาววังเค้าอยู่ใน 紫禁城 [Zǐjìnchéng] หรือวังต้องห้าม คำถามคือที่ว่าไอ้ที่ว่า “ห้าม” นี่เค้าห้ามอะไร??

“ห้าม” คือ ห้ามไม่ให้คนในออกคนนอกเข้าไงคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวๆ นางในถือเป็นสมบัติของฮ่องเต้ บางคนเกิดในวังและตายในวัง ทั้งชีวิตไม่เคยออกไปข้างนอกเลย คนที่ถวายตัวเป็นนางในแล้ว ทั้งชีวิตก็ออกไปขางนอกไม่ได้เช่นกัน ถ้าถวายตัวแล้วทั้งชีวิตไม่ได้เจอพี่น้องพ่อแม่อีกเลยก็มี เพราะตำหนักในที่เป็นที่อยู่ของสาวชาววังมีแต่ “ผู้หญิง” เท่านั้นค่ะ อยู่กันเป็นพันๆคน บางราชวงศ์ว่ากันว่ามีเป็นหมื่นๆ คน มีผู้ชายคนเดียวคือ “ฮ่องเต้” ผู้ชายคนอื่นห้ามเข้าเด็ดขาด ส่วนขันทีไม่นับเพราะโดนตอนไปแย้วว จะเรียกว่าเป็นฮาเร็มของฮ่องเต้ก็ไม่ผิดนะสุ่ยหลินว่า

คำถามคือสนมนางในสมัยก่อนวันๆ เค้าทำอะไรกันนะ?? ไม่เบื่อแย่เหรอ?? เทียบชีวิตปัจจุบันที่ปราศจากเน็ตแทบจะขาดใจ เค้าอยู่ได้ไงนะ? มาติดตามคำตอบในโพสนี้กะสุ่ยหลินนะจ๊ะ^^

อยากรู้จังผู้หญิงจีนสมัยก่อน เค้าแต่งตัวกันยังไงนะ??

ทุกคนเคยเป็นอย่างสุ่ยหลินไหมคะ เวลาดูหนังจีนโบราณๆ เนี่ย ก็นึกในใจว่าคนสมัยก่อนเค้าแต่งตัวเซ็กซี่โป๊ เหมือนกันเนอะ ยิ่งอย่างเรื่อง The Empress of China (武媚娘传奇) [Wǔmèiniáng chuánqí] ซึ่งเค้าว่าเป็นยุคถัง (唐代) ยุครุ่งเรืองของจีน ยิ่งคิดว่า เห้ยย…โชว์กันขนาดเนี้ย ท่านฮ่องเต้อาจไม่มีกะใจทำงานนะ จิตใจคงระส่ำระสายน่าดู เลือดกำเดาอาจพุ่งได้ อิ อิ

ก็เลยลอง search อากู๋ดูเรื่องการแต่งกายของสาวชั้นสูงจีนโบราณกันค่า เค้าก็คุยกันหลายแบบ หลายแนวว่าจริงๆ แล้วสาวชาวจีนโบราณสมัยถังเค้าแต่งตัวยังไง แบบนั้นแบบนี้ สุ่ยหลินว่าน่าสนใจดีก็เลยเอามาเล่าสู่กันฟังนะคะ บอกก่อนว่าอ้างอิงเชิงวิชาการไม่ได้นะตัวเอง เอาไว้อ่านกันหนุกหนานๆ จ้าา

ลองคิดดูในใจเล่นๆ กันก่อนสมัยก่อนเค้าแต่งตัวกันยังไงนะ เหมือนอย่างที่เราเห็นในหนังอ่ะป่าว??

สแลงจีนในเน็ต เกิดมาได้ยังไง??

สแลงจีนในเน็ต-เกิดขึ้นมาได้อย่างไร

สวัสดีค่ะแฟนเพจที่น่ารักของสุ่ยหลิน^^ ทุกภาษาที่ใช้กันอยู่ในโลกทุกวันนี้ ในหลักภาษาศาสตร์เราเรียกว่า “ภาษาที่ยังไม่ตาย” ค่ะ หมายความง่ายๆ ว่ายังมีคนใช้ คนพูดกันอยู่ และเพราะภาษาที่ยังไม่ตายจึงมีคำใหม่ๆ เกิดขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ ตามการพัฒนาของโลกหรือสภาพสังคมในตอนนั้นๆ อย่างเช่นสมัยก่อนไม่มีทีวี มือถือ รถไฟฟ้า ก็ไม่มีคำเรียกของพวกนี้ แต่ต่อมาเมื่อโลกเจริญขึ้น สิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนก็มีขึ้นมา ก็เลยต้องมีคำศัพท์ชี้เฉพาะมาเรียกสิ่งเหล่านั้นนั่นเองค่ะ

และในศัพท์เกิดใหม่พวกนี้ก็มีศัพท์ที่เกิดมาจากอินเตอร์เน็ตที่บรรดาวัยรุ่นชอบใช้ ภาษาจีนเรียกว่า 网络语言 [wǎngluò yǔyán] ภาษาที่ใช้ในเน็ตหรือภาษาแชท บางทีก็เรียกกันเล่นๆว่า 火星文 [Huǒxīngwén] ภาษาดาวอังคาร เพราะบางคำตั้งเพื่อเป็นศัพท์ที่รู้กันในแวดวงเท่านั้น (คนนอกอย่างสุ่ยหลินไม่เข้าใจ แก่แล้วตามไม่ทัน) เรียกว่าใครอินเทรนด์รู้ก่อน ใช้เป็นจะดูคูล ดูเท่ โพสนี้เรามารู้จักว่า 网络语言 พวกนี้มาเกิดมาได้ยังไงกับสุ่ยหลินดีกว่าค่ะ

4 ของขวัญไม่ควรให้ของ คนจีน

4-ของขวัญไม่ควรให้ของคนจีน

คนจีน เค้ามีวัฒนธรรมความเชื่อมาอย่างยาวนาน บางเรื่องคนต่างชาติอย่างเราก็เข้าใจ บางเรื่อง ณ จุดนี้คืออาไล? วันนี้สุ่ยหลินเลยอยากเล่าสู่กันฟัง เรื่องความเชื่อในการให้ของขวัญตามธรรมเนียมปฏิบัติของคนจีนนะคะ^^  ต้องออกตัวแรงก็ก่อนว่าเดี๋ยวนี้คนจีนบางคนเชื่อ บางคนไม่เชื่อ แถมยังมีบางพื้นที่ที่เชื่อเรื่องนี้ แต่บางพื้นที่ไม่เชื่อก็มีนะ จึงเป็น “คชสบ” (ความเชื่อส่วนบุคคล) จ้า (งงในคำย่อของสุ่ยหลินม่ะ? อิ อิ)

ไม่เป็นไรๆ อย่างน้อยเรารู้ไว้ เวลาเห็นคนจีนเค้าเชื่อกัน เราได้ไม่งง ที่สำคัญเราได้ไม่เปิ่น หน้าแตกเพล้งๆ อะไรแบบนี้ด้วยน้าา เริ่มกันเรยย

โดยปกติแล้วตามมารยาทคนจีน เวลาไปมาหาสู่กัน ไปเยี่ยมเพื่อน เยี่ยมญาติที่บ้านคนอื่น ก็มักจะมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ติดมือไปให้เจ้าบ้านในฐานะที่เราเป็นแขก  แต่มีของขวัญบางอย่างที่คนจีนเค้าไม่นิยมให้กันค่ะ เพราะถือว่าไม่เป็นมงคล มีอะไรบ้างและเพราะอะไรนะ?? ติดตามค่าาา