สวัสดีค่ะแฟนเพจที่น่ารักของสุ่ยหลินทุกคน! โพสนี้สุ่ยหลินจะมาแชร์เทคนิคการใช้คำว่า “讲” [jiǎng] กับ “说” [shuō] ให้ฟังกันแบบเข้าใจง่ายๆ เลย หลายคนคงเคยงงๆ ว่าสองคำนี้ต่างกันยังไง เพราะแปลว่า “พูด” เหมือนกัน แต่จะใช้ตอนไหนดีล่ะ? เดี๋ยวสุ่ยหลินจะเล่าให้ฟังเข้าใจแบบง่ายๆ กันเลยค่า
ก่อนอื่นมาดูความเหมือนกันก่อน!
รู้ไว้ก่อนเลยว่า ทั้ง 讲 [jiǎng] และ 说 [shuō]:
- เป็นคำที่ใช้เวลาเราจะสื่อสารด้วยปากเนอะ
- ใช้เป็นคำกริยาในประโยคได้เหมือนกัน
- เจอได้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวันทั้งคู่
แล้วต่างกันยังไง? มาดูกัน!
说 [shuō] – พูดแบบชิลๆ
说 นี่เหมือนเวลาเราคุยกับเพื่อน คุยกับแฟน หรือคุยกับครอบครัวเลย ใช้ได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเป็นทางการ เช่น:
- อยากเม้าท์กับเพื่อน
- เล่าเรื่องสนุกๆ ให้คนอื่นฟัง
- บอกความรู้สึกของเรา
ตัวอย่างการใช้แบบสบายๆ:
- 他说他明天不来。
Tā shuō tā míngtiān bù lái.
เค้าบอกว่าพรุ่งนี้ไม่มา – เหมือนเรา chat บอกเพื่อนว่าไม่ว่างไปเที่ยวด้วยกัน - 你说什么?
Nǐ shuō shénme?
เธอว่าไงนะ? – เวลาได้ยินไม่ชัด - 我想说的就是这个。
Wǒ xiǎng shuō de jiù shì zhège.
นี่แหละที่อยากจะบอก!
讲 [jiǎng] – พูดแบบให้ความรู้
讲 นี่จะจริงจังหน่อย เหมือนตอนครูสอนหนังสือ หรือเวลาเราต้องอธิบายอะไรที่ซับซ้อนๆ เช่น:
- ตอนสอนการบ้านให้น้อง
- เล่านิทานให้เด็กๆ ฟัง
- พรีเซนต์งานหน้าห้อง
ตัวอย่างการใช้:
- 老师正在讲课。
Lǎoshī zhèngzài jiǎng kè.
ครูกำลังสอนอยู่จ้า - 他在讲故事。
Tā zài jiǎng gùshì.
เขากำลังเล่านิทานอยู่ - 请讲解这道题。
Qǐng jiǎngjiě zhè dào tí.
ช่วยติวข้อนี้ให้หน่อยสิ
เทคนิคการจำแบบง่ายๆ
1. ลองคิดง่ายๆ แบบนี้:
- ถ้าแค่คุยเล่น → ใช้ 说 [shuō]
- ถ้าต้องอธิบายยาวๆ → ใช้ 讲 [jiǎng]
2. มาดูคำที่มักเจอบ่อยๆ กัน! 讲 [jiǎng] มักเจอกับพวกนี้:
- 讲课 [jiǎng kè] – สอนหนังสือ
- 讲故事 [jiǎng gùshì] – เล่านิทาน
- 讲解 [jiǎngjiě] – อธิบาย
- 讲演 [jiǎngyǎn] – บรรยาย (แบบในห้องประชุม) 说 [shuō] มักเจอกับพวกนี้:
- 说话 [shuōhuà] – คุยกัน
- 说明 [shuōmíng] – อธิบาย (แบบสั้นๆ)
- 说实话 [shuō shíhuà] – พูดตรงๆ นะ
ประโยคที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
1. เวลาคุยกับเพื่อน:
- 我跟你说哦![Wǒ gēn nǐ shuō ó!]
“เดี๋ยวบอกอะไรให้!” - 你说得对。[Nǐ shuō de duì.]
“เธอพูดถูกเลย”
2. เวลาอยู่ในห้องเรียน:
- 老师,请您再讲一遍。[Lǎoshī, qǐng nín zài jiǎng yī biàn.]
“คุณครูคะ/ครับ ช่วยอธิบายอีกรอบได้ไหมคะ” - 我来讲解这个问题。[Wǒ lái jiǎngjiě zhège wèntí.]
“เดี๋ยวหนูจะอธิบายปัญหานี้ให้ฟังค่ะ”
จากที่สุ่ยหลินเรียนมาหลายปี เห็นเลยว่าคนที่เข้าใจความต่างของสองคำนี้ จะพูดจีนได้เป๊ะมาก! แถมฟังดูเป็นธรรมชาติ เหมือนเจ้าของภาษาเลยล่ะ ถ้าใครอ่านแล้วยังงงๆ ตรงไหน ถามมาได้เลยนะคะ สุ่ยหลินยินดีตอบทุกข้อสงสัยเลย! อย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ให้เพื่อนๆ ที่กำลังเรียนภาษาจีนด้วยกันด้วยนะคะ
ป.ล. ถ้าอยากได้เทคนิคการเรียนภาษาจีนแบบสนุกๆ แบบนี้อีก อย่าลืมกดติดตาม website ของสุ่ยหลินด้วยนะคะ! แล้วเจอกันในโพสหน้านะคะ 拜拜 [báibái]!
หนังสือไวยากรณ์จีนระดับกลาง HSK ระบบใหม่ซื้อได้แล้วววค่าา
หาซื้อได้ที่ https://s.shopee.co.th/1LORs7BlPU
อ่านตัวอย่าง https://bit.ly/HSKnewgrammar-Intermediate