อย่างที่รู้กันว่าอักษรจีนเป็นอักษรภาพมาก่อน เว้ากันง่ายๆ คือเขียนอย่างที่ตาเห็น ดั้งเดิมคือเห็นอะไรก็เขียนลงไปโลด แล้วค่อยๆ ลดรูปไป เปลี่ยนแปลงไป (ก็ 5,000 ปีอ่ะนะ จะไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็เป็นไปไม่ได้) แต่อักษรบางตัวก็เพราะเปลี่ยนไปเยอะนี่เอง ทำให้บางทีเราลืมกันไปแล้วว่าทำไมดั้งเดิมถึงเขียนแบบนี้
วันนี้ลองมาดูความเชื่อมโยงของตัวอักษร 3 ตัวนี้กันค่ะ มั่นใจว่าคนเรียนภาษาจีนต้องรู้จักดีแน่ๆ
豕 / 家 / 嫁
สังเกตเห็นไหมป่าวคะว่าทุกตัวมีตัว 豕 ที่แปลว่า “หมู” อยู่ข้างในเหมือนกัน คราวนี้ลองมาดูความหมายทีละตัวว่าเกี่ยวอะไรกะหมูนะ
เริ่มแรกที่ตัวนี้เลย 豕 [shǐ] = หมู
ให้สังเกตว่าหัวหมูคือเส้นขีดนี้ 一 ด้านซ้ายคือพุงหมูและขาหมูอีก4ขา ส่วนเส้นด้านขวาสองเส้นคือหางหมู คำว่า豕 ปัจจุบันเหลือใช้เพียงภาษาในนิยายหรือวรรณกรรมเท่านั้น ในชีวิตประจำวันเราเรียกหมูในภาษาจีนว่า 猪 [zhū] แทนค่ะ
คำที่สอง 家 [jiā] = บ้าน
สังเกตให้ดีคำนี้คือเอาคำว่า “豕” (หมู) มาใส่หลังคา 宀
ที่มาของคำนี้เพราะคนสมัยก่อนชอบเลี้ยงหมูอยู่ในบ้านหรือบริเวณบ้าน เวลาเรากินเหลือก็ให้มันกินเศษอาหาร พอมันโตเราก็กินมัน (โหดม่ะ) คนสมัยก่อนเลยเขียนอักษรภาพเป็นรูปหลังคาที่มีหมูอยู่ข้างใน แทนความหมายว่า “บ้าน” ค่ะ
คำสุดท้าย 嫁 [jià] = แต่งงาน
เทคนิคการจำคำแบบนี้ช่วยให้เราไม่เบื่อเวลาคัดและจำได้ง่ายขึ้นด้วยน้า
ตัวจีนไม่ยากอย่างที่คิดเนาะ^^
ป.ล. สุ่ยหลินอยากนำเสนอว่าภาษาจีนไม่ยากอย่างที่คิดน้า เราเคยคุยกันเรื่องแฝดจีน 3 ตัวคือเอาอักษรหน้าตาเหมือนกันมาซ้อนกัน 3ตัว กลายเป็นคำใหม่ที่อิงความหมายของคำเดิม ใครสนใจก็จงไปที่ลิงค์นี้จ้า
สุ่ยหลิน^^