สวัสดีค่ะแฟนเพจที่น่ารักของสุ่ยหลิน^^ หลังจากเราได้ติดตามวิธีการเรียนภาษาจีนตามสไตล์ปั๊มภาษาจีนไปแล้ว สุ่ยหลินก็ขอนำเสนออีกเรื่องเล่าอีกเรื่อง ซึ่งถือว่าเป็นความเชื่อผิ๊ด ผิด เกี่ยวกับการเรียนภาษาจีน ลองอ่านดูว่าใครมีความเชื่อแบบนี้ สุ่ยหลินขอบอกว่าให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่โดยด่วนๆๆ!!! เพราะว่าไอ้ความเชื่อแบบเนี้ย ไม่ช่วยให้เราเรียนภาษาจีนให้ดีขึ้นหรอก และนอกจากไม่ช่วยดึงแล้วยังช่วยฉุดอีกตังหาก สุ่ยหลินบอกไว้เลยนะจ๊ะ
เชื่อสุ่ยหลินเถอะว่า “เราเป็นอย่างที่เราคิด” ถ้าเราคิดว่าทำไม่ได้ ชาตินี้เราก็ไม่มีวันทำได้ค่ะ ภาษาจีนก็เหมือนกัน ปีใหม่แล้ว คิดใหม่ ทำใหม่ คิดว่าคนอื่นเรียนเก่งได้ เราก็เรียนเก่งได้เหมือนกัน เพราะสุ่ยหลินและแฟนเพจเราต่างก็เท่าๆ กันจ๊ะ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบใครเลยนะ มาเรียนไปด้วยนะ จุ๊บๆๆ
มาติดตามความเชื่อผิดๆ เกี่่ยวกับภาษาจีน ที่เราอ่านจบแล้วต้องทิ้งความคิดพวกนี้ใส่ถังขยะซะให้หมดเลยนะ
อ่านเลยจ้า^^
1. จะเรียนภาษาจีนให้ได้ดี ต้องเรียนตั้งแต่เด็กเท่านั้น เรามันเรียนตอนโต (หรือแก่) จะไปสู้เค้าได้ไงฟร่ะ??
ความจริงเด็กๆ เล็กๆ ไม่ได้จำตัวอักษรจีนได้เร็วและง่ายอย่างที่คิดหรอกค่ะ มีงานวิจัยหลายชิ้นเลยนะเค้าบอกว่าในสภาพแวดล้อมเดียวกันผู้ใหญ่เรียนได้ดีกว่าอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าจะมีคนค้านว่าสมองผู้ใหญ่ดีสู้เด็กไม่ได้ แต่ผู้ใหญ่เนี่ยสามารถสร้างเป้าหมายในการเรียนได้ดีกว่าเด็กนะคะ เช่น ชั้นเรียนภาษาจีนเพื่อไปสมัครแอร์ ชั้นเรียนเพื่อไปเป็นล่าม ชั้นสอบ HSK เพราะชั้นจะไปขอทุน ชั้นอยากได้ภาษาจีนเพราะต้องพูดกับหัวหน้าและลูกค้าให้รู้เรื่อง ฯลฯ ในขณะที่เด็กยังเล็กเกินกว่าจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนแบบนี้ค่ะ
ประสบการณ์จากสุ่ยหลิน ผู้ใหญ่เรียนภาษาที่สองเนี่ยจะมีคลังคำศัพท์ที่ดีกว่าเด็กค่ะ ทำให้เข้าใจอะไรได้ง่ายกว่า เช่น เรารู้จักคำว่า “บริการ” 服务(fúwù) และรู้จักคำว่า “หลังจากที่ขาย” 售后 (shòuhòu) ผู้ใหญ่ (อย่างเราๆ )ก็สามารถที่จะรวมคำได้ว่า อ้อ! มันก็คือ 售后服务 “บริการหลังการขายนั่นเองงงง” ในขณะที่เด็กๆ เรียนภาษายังไม่เข้าใจ (แม้ในภาษาแม่ตัวเอง) ว่าบริการหลังการขายคืออาไลหว่า??
ดังนั้น เรียนภาษาจีนต้องเรียนอย่างมีเป้าหมายนะจ๊ะ Nice to know ไม่พอต้อง Must to know นะ
2. ต้องความจำดีเท่านั้นถึงจะจำตัวเขียนจีนได้ ชั้นยุ่งมากวันๆ ธุระเยอะ เรียนก็หนัก งานก็เพียบ อายุก็มาก ต้องเลี้ยงลูกอีก จำไม่ไหวหร้อกก!! ชั้นทำไม่ได้แน่ๆ
ความจริง แน่นอนที่ซู้ดค่ะว่าความยากของภาษาจีนคือตัวเขียน แต่เราไม่ได้จำเป็นต้องจำทุกตัวหรอกนะ ปกติภาษาจีนจะแบ่งเป็นซ้าย-ขวาหรือบน-ล่าง ตัวซ้ายมักเป็นตัวแสดงความหมายและขวาไว้สำหรับออกเสียง ส่วนตัวบนมักเป็นตัวแสดงความหมาย ตัวล่างมักออกเสียงค่ะ
ประสบการณ์จากสุ่ยหลิน จำพวกอักษรเดี่ยวที่แสดงความหมายไว้เถอะจะเกิดผล แน่นอนว่าคุณไม่สามารถอ่านออกได้ทุกตัวแต่สามารถเดาศัพท์ได้บ้างว่าเกี่ยวกับอะไร
มาดูวิธีการเดากันจากตัวอักษรกัน
ตระกูล 口 (ปาก) ตัวอักษรที่มี 口 พวกนี้จะเกี่ยวกับปากทั้งหมดเลย เช่น 吃 (กิน) 吐 (อ้วก) 喝 (ดื่ม) 叫 (เรียก) 告 (บอก) 否 (ไม่, ปฏิเสธ เพราะต้องใช้ปากบอกว่า “ไม่” ใช่ป่าว)
หรืออย่างตระกูล 艸 (ใบไม้) สังเกตดูรูปเต็มเหมือนใบหญ้าไหม?? และลดรูปมาเหลือ 艹 ก็จะเกี่ยวกับต้นไม้ใบหญ้าทั้งหมดเลยค่ะ เช่น 茶 (ชา) 花 (ดอกไม้) 莲 (ดอกบัว) 苹 (แอปเปิ้ล)芒 (มะม่วง) เป็นต้น
นอกจากนี้ภาษาจีนก็ช่วยให้เรารวมคำได้เหมือนภาษาไทยด้วยนะ เช่น มาม่า เราเรียกว่า 方便面 (方便 = สะดวกสบาย) (面= บะหมี่) บะหมี่ที่กินแล้วสะดวกสบายก็คือมาม่าไงจ๊ะ อิ อิ
ถึงแม้ว่าปัจจุบันสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ภาษาก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะมากแล้วด้วย การเดาคำศํพท์แบบวิธีข้างบนอาจจะไม่ช่วยให้เราเดาได้ทุกตัวอักษร แต่ก็ช่วยให้เราสามารถเดารากศัพท์ และที่มาของตัวอักษรได้ส่วนนึงเพราะภาษาจีนเป็นภาษาภาพ วาดอย่างที่ตาเห็นตั้งแต่เมื่อ 5,000 ปีก่อน สมัยก่อนคนโบราณคงนึกไม่ออกว่าปัจจุบันโซเชียลมีเดียคืออะไร?? อะไรคือแทปเล็ต?? ไอโฟนคือสิ่งใด?? คำพวกนี้จึงเป็นศัพท์แบบต่อขยายมานะจ๊ะ
3. ภาษาจีน ออกเสียงยาก ไม่มีทางเลยที่ชั้นจะออกเสียงได้ ชั้นไม่มีพรสวรรค์อ๊ะ??
สุ่ยหลินขอธงมาฟันเลยว่าเราออกเสียงง่ายกว่าคนชาติอื่นเรียนภาษาจีนมาก เสียงส่วนใหญ่เราสามารถเพราะภาษาไทยมีวรรณยุกต์ 5 แต่จีนมี 4 เราออกเสียงได้ชัดกว่าฝรั่ง เกาหลีและญี่ปุ่นมากค่ะ ยืดอกแล้วภูมิใจเข้าไว้นะจ๊ะแฟนเพจของสุ่ยหลิน
แต่มีเสียงเหล่านี้ที่เราไม่มีในภาษาไทยได้แก่ j q x s z c sh zh ch r ซึ่งพวกนี้ต้องฟังเหล่าซือพูดหรือฝึกการออกเสียงเอาจากในเวปก็ได้ เพราะไม่สามารถมีเสียงภาษาไทยเขียนคาราโอเกะได้ ซึ่งบอกได้เลยไม่ยากแร้ว
ดูในโพสนี้เกี่ยวกับ พินอิน เพิ่มเติมได้ค่ะ พินอินคืออะไร อ่านออกไปแล้วคนจีนยังงง สุ่ยหลินเขียนอธิบายไว้ละเอียดยิบๆ แล้ววว
สู้ๆ นะตะเอง 加油!!!
4. ภาษาจีน มันช่างแตกต่างกับภาษาไทยของเราเหลือเกินจะเรียนยังไง (ว่ะ!!) ปวดหัวอิ๊บอ๋าย!!
อันดับแรกเราต้องเข้าใจก่อนนะคะว่าภาษาจีนแตกต่างกับภาษาไทยและอังกฤษตรงที่ไม่ใช้พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์มาสร้างคำ ดังนั้นต้องใช้ความพยายามมากหน่อยเป็นธรรมดา เพราะภาษาไทยบอกเสียงไม่บอกความหมายส่วนภาษาจีนคือบอกความหมายไม่บอกเสียง เราถึงต้องเรียนพินอินเพื่อมาออกเสียงตัวอักษรภาษาจีนไงจ๊ะ
งั้นถ้าเราเรียนภาษาที่ตระกูลเดียวกับภาษาไทยล่ะจะเป็นไง??
คำตอบคือง่ายขึ้นเยอะค่ะ เช่น เราเรียนภาษาลาว เราก็ไม่ต้องมาปวดหัวนั่งจำ ก ข ค อะไรกันใหม่เพราะมีส่วนคล้ายๆ กัน เดากันได้ ก็เหมือนกับฝรั่งที่พูดภาษาอังกฤษและก็พูดฝรั่งเศส สเปน ได้ เพราะมันคือภาษาตระกูลเดียวกันไง
จึงไม่แปลกทำไมฝรั่งพูดได้ 4-5 ภาษาเพราะเหตุผลแบบนี้เอง
ดังนั้น ถ้าเรารักแล้วศรีต้องอดทนหน่อยนะตัว อย่าลืมเราเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เล็กๆ ก็ยังเป็นภาษาคนละตระกูลกับไทยยังเรียนได้เลย เพิ่มอีกแขนง (สมอง) เป็นไรไปเนอะ
ประสบการณ์จากสุ่ยหลิน ข้อดี (เดวจะมีคนถามว่ามีด้วยหรา) ภาษาจีนสำหรับคนไทยยากที่ตัวอักษรอย่างเดียว แต่ไวยากรณ์และการออกเสียงไม่ยากเลยค่ะ tense ก็ไม่มี คำนามระบุเพศชาย หญิงแบบภาษาเยอรมันก็ไม่มี ไม่มีการผันรูปตามประธานแบบภาษาฝรั่งเศสด้วย ถ้าเรียงประโยคผิดแต่ออกเสียงถูก คนจีนก็ยังเดาได้ (แต่ภาษาอังกฤษจะงงมากว่าตกลงเกิดขึ้นหรือยัง ตอนไหนหรือยังไม่เกิดหรืออะไรหว่า)
สรุปมีข้อดีเยอะสาหรับคนไทย มาเรียนกันนะๆ
5. ต้องใช้เวลากี่ปีกว่าจะพูดได้อ่ะ (ท้อแท้จิตใจ TT)
ความจริง ถ้าออกเสียงวรรณยุกต์ถูกก็พูดได้ล่ะจ้า ตอนเรียนใหม่ๆ ยังไม่ต้องห่วงเรื่องเรียงประโยคให้สวยงาม ฝึกออกเสียงให้ชัดสำคัญที่สุดค่ะ พินอินต้องท่องให้แม่น ออกเสียงให้ถูกนะ
จากนั้นค่อยมาฝึกฝนวิธีการเรียงประโยคหรือไวยากรณ์อื่นๆ ต่อไปนะจ๊ะ
6. ตัวจีนเขียนไม่ได้อ่ะ!! ต้องจำ stroke order อีกก็จำไม่ไหว??
ความจริง พิมพ์พินอินใน word ได้เลยนะ ถ้าตั้งใจเรียนไว้เพื่อสื่อสารเฉยๆ ไม่ต้องการเอาไปสอบ ก็แค่เพิ่ม language bar แบบ Chinese PRC เท่านั้นก็ใช้พิมพ์พินอินได้เลย (ดังนั้น พินอินสำคัญมากก)
ปอลิง แต่ถ้าต้องเอาไปสอบเขียน ก็จำเป็นที่ต้องจำนะ ดังนั้น ไม่มีอะไรดีกว่าไปกว่าหัดคัดทุกวัน ทำน้อยๆ แต่สม่ำเสมอเหมือนที่ปั๊มฯ บอกค่ะ
แต่เดี๋ยวใช้ชีวิตประจำวันจริงๆ คนจีนส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ก็พิมพ์กันหมด ถ้าเป้าหมายเพื่อสื่อสารกันได้ พิมพ์แชท เขียนอีเมล์เข้าใจ ก็ถือว่าบรรลุแล้ว
7. ต้องไปเรียนเมืองจีนหรืออยู่เมืองจีนถึงเรียนภาษาจีนได้ เราอยู่เมืองไทยเรียนยังไงก็ไม่พัฒนา เลิกเรียนเหอะว่ะ!!
ประสบการณ์จากสุ่ยหลิน แน่นอนค่ะว่าการไปเรียนเมืองจีนช่วยเร่งสปีดภาษาให้เร็วขึ้น แต่อย่าลืมว่าเราก็ไม่ได้ไปเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองนอกด้วยเหมือนกันนะ โอกาสหรือจังหวะคนเราไม่เหมือนกัน ถ้ามัวแต่มาตั้งกำแพงว่าต้องไปเมืองนอกแล้วถึงพูดได้ ถ้าจังหวะและโอกาสไม่มีก็ไม่ต้องพูดได้เลยเหรอ???
งั้นทำไมเราเห็นช้างเผือกที่เค้าไม่เคยไปเรียนเมืองนอกแต่พูดอังกฤษปร๋อล่ะ (อย่าบอกนะว่าไม่มี!) ถ้าภาษาอังกฤษทำได้ก็ต้องไม่มีข้อยกเว้นสำหรับภาษาอื่นเหมือนกันสิ แต่คงต้องใช้ความพยายามมากหน่อยสินะ
สุ่ยหลินแนะนำ ดูละครจีน หนังจีน หรือเกมส์โชว์จีนผ่านทาง youtube หรือ youku (优酷)ก็ได้ เลือกละครแบบที่ชอบ ดูบ่อยๆ วันละตอนจะรู้เรื่องเองเริ่มจากประสบการณ์และการเดาก่อน จากนั้นเราจะรู้ศัพท์มากขึ้น วิธีนี้ฟรี ไม่เหนื่อย และไม่เบื่อด้วย
8. เรียนทำไม๊?? ภาษาจีน แค่ภาษาอังกฤษยังไม่รอด คนจีนไม่มีมารยาทสังคม เราไม่เรียนภาษาจีนหรอก อ่ะโด่ววว์!!!
จริงค่ะ ว่าภาษาอังกฤษยังคงเป็นภาษาที่สำคัญต่อไป แต่หมุนไปมามองให้ทั่วโลก กูรูหลายสำนักฟันว่าภาษาจีนจะสำคัญตามมาต่อไปและต่อไปในอนาต เพราะจำนวนคนที่มากมายมหาศาลและเศรษฐกิจที่กำลังเจริญขึ้น หลังจากที่ทั่วโลกซบเซา ถึงแม้เรา (คนไทย) จะไม่อยากต้อนรับคนจีนเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจเมืองไทยเดี๋ยวนี้มีคนจีนเข้ามาเป็นลูกค้า มาใช้บริการในสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อยๆ ภาษาจีนจะเป็นอุปสรรคถ้าเราสื่อสารกับเค้าไม่ได้ เราจะได้เงินจากเค้าได้ยังไงล่ะถูกไหม??
ส่วนเรื่องมารยาทสังคมเราล้วนร้องยี้เนี่ย สุ่ยหลินก็เคยถามอ.คนจีนแบบคับข้องใจเหมือนกันว่าทำไมเค้าทำแบบนี้ ก็ได้คำตอบว่าคนจีนมีมหาศาล แต่ก่อนการศึกษาก็ไม่ทั่วถึงไม่เท่าเทียม จู่ๆ หลายคนก็รวยขึ้นมาทันควันเพราะการเปิดประเทศทำให้การพัฒนาตัวเองนี้ตามไม่ทัน ก็เลยมีมารยาทบางอย่างที่ไม่เป็นที่ยอมรับของสากลโลกหลุดออกมาด้วย
แม้แต่คนจีนเองหลายคนเค้าก็ไม่เห็นด้วยกับมารยาทแบบนี้ของคนจีน เค้าก็อายเหมือนกันนะ ที่คนร่วมชาติเค้าทำแบบนี้ แต่ตอนนี้รัฐบาลจีนเค้าก็ไม่นิ่งนอนใจมีแคมเปญบอกกับคนจีนว่า “เวลาที่คุณออกนอกประเทศคุณคือภาพลักษณ์ของประเทศจีน” ก็อาจต้องใช้เวลาในการพัฒนาหน่อยนะคะสุ่ยหลินว่า
เอาตรงๆ นะก็เหมือนกันทุกชาติหล่ะรวมถึงชาติไทยด้วย ข้อดีคนจีนเค้าก็มี เช่นโอบอ้อมอารีกับคนรู้จัก ช่วยเหลือเผื่อแผ่กับเพื่อนฝูงญาติมาก ขยันมากที่สุดและอดทนมาก สุ่ยหลินว่าเราก็เรียนรู้ข้อดีของเขาเอามาปรับปรุงข้อดีของเราให้ดีขึ้น ว่ากันง่ายๆ อะไรที่ดีของเขาก็เอามายืม อะไรห่วยๆ ก็อย่าเอามา เพราะวัตถุประสงค์ของการเรียนภาษาจีนของเราเพื่อให้เราทำงานที่ใช้ภาษาจีนได้ ได้เงินจากงานตรงนั้น ไม่ได้เรียนเพื่อจะเป็นคนจีนสักหน่อยเนอะ!!!
สุ่ยหลินอยากถามแฟนเพจตรงนี้เลยค่ะ มาช่วยแชร์ประสบการณ์ดีกว่าว่าตั้งแต่รู้จักคนจีนมา หรือทำงานกับคนจีนมา คนจีนมา หรือมีแฟนเป็นคนจีนมา คนจีนมีข้อดีตรงไหน? ตรงไหนที่เราประทับใจ? มาร่วมแชร์ให้โลกรู้ดีกว่าค่ะข้อดีของคนจีนคืออะไร เป็นกำลังใจให้พวกเราคนเรียนภาษาจีนด้วยกันนะคะ^^ (ของสุ่ยหลินเขียนไปแล้วข้างบน)
สุ่ยหลินเรียบเรียงจากนี้ค่ะ (แต่เติมคหสต.ตัวเองเข้าไปด้วย)http://www.digmandarin.com/8-myths-about-mandarin-chinese-and-how-to-overcome-them.html
สุดท้ายมีกำลังใจกันอย่างเปี่ยมล้นแล้ว ได้เวลามาร่วมงานสัมนา “เข็มทิศภาษาจีนปี 2” กันดีกว่าจ๊ะ สุ่ยหลินต้องขอขอบคุณมากๆ เลย สำหรับแฟนเพจที่ให้ความสนใจอย่างมากมายเกินคาดหมาย ใครที่ลงทะเบียนและจ่ายเงินแล้วไว้มาเจอกันในวันงานนะจ๊ะ
ส่วนใครที่สนใจ งานมีวันที่ 21 มค. นี้แล้วจ๊ะ ที่ BTS พระโขนง รายละเอียดคลิกนี่เลยยย สุ่ยหลินและผองเพื่อน ปั๊มภาษาจีน ,จี๊นจีน (花哥) , Maneeploy ปีนี้พ่วงด้วย อ.น้อต นักเขียนคนใหม่ของ ChineseBang 中文棒 พวกเราทั้งหมดเหล่า The Avengers ภาษาจีน ChineseBang 中文棒 รอเจอทุกคนอยู่นะคะ^^
ไว้มาเจอกันนะคะ^^
สุ่ยหลิน
เครดิตรูปปก Designed by Freepik